The Agenda South

มองยุทธศาสตร์ “ประชาธิปัตย์” ณ ปลายด้ามขวานของแม่ทัพเลือกตั้ง ”นิพนธ์ บุญญามณี”

by sorawit @20 ธ.ค. 2565 12:49 ( IP : 49...38 ) | Tags : ข่าว
photo  , 1280x1280 pixel , 192,519 bytes.

ทัศนะ โดย.. เมือง ไม้ขม

และแล้ว ”อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี เขต 1 ส.ส. หนึ่งเดียวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของ ”ประชาธิปัตย์” ก็ไขก๊อก ยื่นไปลาออกจากพรรค พร้อมทิ้งท้ายวิพากษ์วิจารณ์ ”บ้านเก่า” ที่เป็นที่เกิดทางการเมืองของตนเองให้เสียหายอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปเป็นสมาชิกของ ”พรรคลุงป้อม” หรือ ”พลังประชารัฐ”

ข่าวว่า นอกจากจะลงสมัคร ส.ส.ในเขตเดิม คือ เขต 1 ปัตตานีแล้ว ยังจะได้เป็นผู้รับผิดชอบการเลือกตั้งใน จ.ปัตตานีของ “พลังประชารัฐ” ด้วย ใหญ่บะเริ่มเทิ้มกว่าอยู่กับ ”ประชาธิปัตย์” ตั้งเยอะ แต่จะสอบได้หรือสอบตก ยังไม่มีใครตอบได้

เพราะในเขต 1 จ.ปัตตานี คะแนนส่วนหนึ่งที่ทำให้ ”อันวาร์” เป็น ส.ส.ติดต่อกันถึง 4 สมัย ไม่ได้เป็นคะแนนความรักซอบใน ”อันวาร์” เป็นการส่วนตัว แต่เป็นคะแนนของคนในเขต 1 ที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด เมื่อ”อันวาร์” ไปลงสมัครในนาม ”พรรคการเมืองอื่น” คะแนนส่วนนี้ไม่ได้ตาม ”อันวาร์” ไปด้วย

และหาก ”นิพนธ์” บุญญามณี” ขุนพลผู้รับผิดชอบพื้นที่ปลายด้ามขวาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฟูมฟักผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงรับการเลือกตั้งในเขต 1 ที่ต้องชนกับ ”อันวาร์” ให้ถึงน้ำถึงเนื้อ โอกาสที่ ”ประชาธิปัตย์” จะปักธงในเขต 1 สำเร็จอีกครั้ง มีความเป็นไปได้สูงยิ่ง

โดยเฉพาะในการเลือกตั้ง ที่จะมาถึงในปี 2566 “นิพนธ์” กำหนดยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้ง โดยใช้ยุทธศาสตร์พระราชทานในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ”เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ให้ผู้สมัครทุกคนใน 12 เขตเลือกตั้งของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันประกอบด้วย จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

มีการติวเข้มว่าที่ผู้สมัครและคณะทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เข้าใจถึงการนำยุทธศาสตร์พระราชทานไปใช้ในการหาเสียง ในการลงพื้นที่เพื่อพบปะกับประชาชน เป็นการย้ำให้เห็นถึงการดำเนินงานทางการเมืองของ ”ประชาธิปัตย์” ที่เห็นถึงความสำคัญของยุทธศาสตร์พระราชทาน เน้นการ ”เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ซึ่งเป็นแนวทางที่กองทัพและหน่วยงานราชการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ใช้ขับเคลื่อน เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ และพัฒนาพื้นที่ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้

“นิพนธ์“ กล่าวถึงยุทธศาสตร์นี้ของ ”ประชาธิปัตย์” ในการนำทัพ เพื่อการปักธงในพื้นที่ปลายด้ามขวานว่า ปัญหาความไม่สงบและความยากจนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องใช้ยุทธศาสตร์พระราชทานจากในหลวง ร. 9 อย่างจริงจัง เพื่อให้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งหาก “ประชาธิปัตย์” ได้รับการเลือกตั้งเข้าไปเป็นผู้แทนก็จะผลักดันยุทธศาสตร์พระราชทาน เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ในอดีต สมัยที่ “ประชาธิปัตย์” เป็น”รัฐบาล” ได้ทำให้สถานการณ์ความรุนแรงลดลงได้ในระดับที่น่าพอใจ

และที่สำคัญ เรื่องการศึกษาคือปัญหาใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สมัยที่ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เป็นผู้ผลักดันในการจัดงบให้โรงเรียนเอกชน มีการสอนวิชาอิสลามศึกษา ริเริ่มให้มีโครงการทัศนศึกษา เป็นเจ้าของนโยบายคืนครูให้นักเรียน การสร้างครูพันธุ์ใหม่ และเรื่องของติวเตอร์ชาแนล

มีการกำหนดยุทธศาสตร์ยกระดับคุณภาพมาตรฐานการศึกษา ด้วยนโยบายสถานศึกษา 3 ดี ส่งเสริมประชาธิปไตย คุณธรรม และห่างไกลยาเสพติด ที่สำคัญโครงการอาหารกลางวันฟรี นมฟรี ตั้งแต่ชั้นเด็กเล็กจนถึงนักเรียน ป.6 เป็นนโยบายที่เกิดขึ้นจากพรรคประชาธิปัตย์ สมัยที่ “จุรินทร์” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาทั้งสิ้น ซึ่งโรงเรียน ครู นักเรียน ได้ประโยชน์ทั้งประเทศ และการศึกษาก็มีการพัฒนาที่ถูกแนวทาง

เพียงแต่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหามากกว่าภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งหาก ”ประชาธิปัตย์” มี ส.ส.หรือมีโอกาสเป็นรัฐบาลจะทำการผลักดันในเรื่องการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเร่งด่วน

“ประชาธิปัตย์” มีจุดเด่นในเรื่องการแก้ปัญหาและการพัฒนาเรื่องการศึกษา ในอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ใน จ.นราธิวาส เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รมว.ศึกษาธิการด้วยซ้ำ

และอีกเรื่อง ที่เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ คือการนำเอาปัญหาของคนไทย ที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย ในรัฐต่างๆ เพื่อทำมาหากิน ทั้งที่อยู่ในชมรมต้มยำกุ้ง ซึ่งเปิดร้านขายอาหาร และที่ประกอบอาชีพอื่นๆ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนอย่างมากมาช้านาน เช่นปัญหาของใบอนุญาตในการทำงานหรือเวิร์ก พอร์มิท การออกหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต ใบอนุญาตการขับขี่รถยนต์-จักรยานยนต์ หรือการแจ้งเกิดแจ้งตายของคนไทย ที่เข้าไปประกอบอาชีพในประเทศมาเลเซีย รวมทั้งเรื่องคุณภาพชีวิต ที่เป็นปัญหาของชาวไทยมุสลิมและไทยพุทธนับแสนคน ที่อาศัยและประกอบอาชีพในประเทศมาเลเซีย

และล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนของชมรมต้มยำกุ้งได้เดินทางเข้าพบ ”นิพนธ์ บุญญามณี” พร้อมหนังสือร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ให้ประสานงานกับประเทศมาเลเซีย เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่ง ”นิพนธ์” ได้กล่าวกับตัวแทนของชมรมต้มยำกุ้งว่า จะดำเนินการประสานงานกับนายกรัฐมนตรีและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

เห็นย่างก้าวการเปิดเกมรุกทางการเมือง เพื่อหวังที่จะปักธงในสนาม เลือกตั้ง ณ ปลายด้ามขวาน ของ ”ประชาธิปัตย์” ที่ ”นิพนธ์” เป็นขุนทัพครั้งนี้ จะเห็นยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนที่ชัดเจน และผู้สมัครที่ ”ประชาธิปัตย์” ส่งลงรับเลือกตั้งในครั้งนี้ มีเสียงตอบรับจากคนในพื้นที่อย่างดียิ่ง โอกาที่ ”ประชาธิปัตย์” จะคืนฟอร์มในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มี ส.ส.ทั้ง 3 จังหวัด ไม่ใช่เรื่องฝันกลางวัน แต่เป็นเรื่องจริงที่ได้รับการยืนยันจากประชาชนในพื้นที่

Relate topics