เครือข่ายนักวิชาการ-เอ็นจีโอภาคใต้ยื่น 4 ข้อเสนอจี้รัฐเร่งแก้ปัญหาที่ดินเกาะหลีเป๊ะ
"เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้" ออกแถลงการณ์ขอให้รัฐเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาสิทธิในที่ดินของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลอูรักลาโว้ย เกาะหลีเป๊ะ 4 ข้อ ทั้งให้กำหนดนโยบายที่ชัดเจน ให้นายกฯ สั่งการเร่งช่วยเหลือ แก้ปัญหาทั้งระยะสั้น-ระยะยาว ให้กระทรวงยุติธรรมปฏิรูปกระบวนการรับฟังพยานหลักฐาน-การพิจารณาคดีในศาลเปิดกว้างและมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน
วานนี้ (19 ม.ค.) เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอให้รัฐเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาสิทธิในที่ดินของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลอูรักลาโว้ย เกาะหลีเป๊ะ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล โดยระบุว่า เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ ซึ่งเกิดจากการร่วมกันของนักวิชาการในสถาบันอุดมศึกษา ภาคประชาสังคมและองค์กรชุมชนในภาคใต้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการดังนี้
1.ให้รัฐบาลกำหนดนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสิทธิที่ดินของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลในภาคใต้ตามแนวทางการถือครองสิทธิในที่ดินในรูปแบบของโฉนดชุมชน ให้ชุมชนชาวเลเป็นเจ้าของร่วมกันเพื่อลดปัญหาการถูกรุกรานจากนายทุนในการกว้านซื้อที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญและฟื้นฟูวิถีชีวิตของชาวเล ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2553 เรื่อง “แนวนโยบายการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล”
2.ให้นายกรัฐมนตรีมีหนังสือสั่งการถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะและพื้นที่สาธารณะภายในเกาะ ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนโดยกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
มาตรการระยะสั้น กรณีพื้นที่สาธารณะ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน เร่งดำเนินการสอบสวน ตรวจสอบการบุกรุกให้เสร็จสิ้นภายใน 90 วัน หากมีการบุกรุกที่ทางสาธารณะ ให้ดำเนินการเร่งแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ และหากไม่ปฏิบัติตามให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตลอดจนหาแนวทางในการยุติความขัดแย้งและเปิดทางสาธารณะให้ชาวเล ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยว ได้สัญจรภายในเกาะหลีเป๊ะจนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ
กรณีปัญหาสิทธิในที่ดินที่อยู่อาศัยของชาวเล ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงยุติธรรม องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ดำเนินการตั้งคณะทำงานชุดเฉพาะกิจ เพื่อตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะโดยมีองค์ประกอบที่มาจากกรรมการที่เคยดำเนินการในอดีต เพื่อความต่อเนื่องของการดำเนินการและแต่งตั้งคณะกรรมการที่จำเป็นแก่การพิสูจน์พยานหลักฐานทั้งในมิติทางกฎหมาย สังคมและวัฒนธรรม และด้านนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อใช้ในการพิสูจน์สิทธิของชาวเล ตลอดจนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการแก้ไข เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่มิชอบด้วยกฎหมาย โดยกำหนดระยะเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นภายใน 180 วัน
มาตรการระยะยาว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการส่งเสริมและฟื้นฟูวิถีชีวิตของชาวเล พร้อมกับเปิดโอกาสให้กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่ เพื่อให้ชาวเลใช้ชีวิตอยู่ในสังคมไทยได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตลอดจนกำหนดนโยบายการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวเล เพื่อให้ชุมชนและนักท่องเที่ยวใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย
3.ให้กระทรวงยุติธรรมปฏิรูประบบกระบวนการรับฟังพยานหลักฐานและการพิจารณาคดีในศาลเปิดกว้างและมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับคดีที่มีผลกระทบต่อกลุ่มเปาะบาง เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายของรัฐ เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนต่อสู้คดีอย่างเต็มที่และกำหนดแนวทางให้การพิจารณาคดีให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นหลัก เช่น การกำหนดให้ต้องเดินเผชิญสืบในพื้นที่ที่พิพาท เพื่อลดค่าใช้จ่ายหลักและค่าใช้จ่ายแฝงในการต่อสู้คดีของประชาชนที่ต้องแบกรับในกระบวนการยุติธรรม อันเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนได้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยง่าย
และ 4.ในระหว่างการดำเนินการ ให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรมกรมคุ้มครองสิทธิฯ กองทุนยุติธรรม หน่วยสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน ปกป้องคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือในกระบวนการยุติธรรมแก่ชาวเลหลีเป๊ะอย่างเร่งด่วน
การออกแถลงการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ปัญหาเรื่องที่ดินของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลอูรักลาโว้ย เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นข้อถกเถียงในสังคมอีกครั้ง หลังจากมีการเชื่อมเหล็กปิดกั้นเส้นทางสัญจรอันเป็นทางสาธารณะของชุมชนที่ใช้ร่วมกันมามากกว่า 100 ปี จนทำให้นักเรียนเดินเข้าโรงเรียนไม่ได้ อีกทั้งยังทำให้ชาวเลและประชาชนทั่วไปใช้เส้นทางสัญจรไปที่ต่างๆ ไม่ได้ ทั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ สุสานชาวเล เส้นทางแห่พิธีกรรมในประเพณีลอยเรือ เส้นทางออกสู่ทะเลเพื่อประกอบอาชีพและทางเดินของนักท่องเที่ยว โดยปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้คนและนักท่องเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ และทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย
แถลงการณ์ ยังระบุอีกว่า ปัญหาเรื่องที่ดินของชาวเลอูรักลาโว้ยดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับความยุติธรรรม ในการมีสิทธิในที่ดินของชาวเลอูรักลาโว้ย เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ว่า เพราะเหตุใดพวกเขาเหล่านี้ยังคงถูกละเมิดสิทธิและต้องออกมาเรียกร้องสิทธิในที่ดิน ทั้งที่กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลในภาคใต้โดยส่วนใหญ่เป็นผู้อยู่อาศัยมาก่อนการเกิดขึ้นของกฎหมายในประเทศไทย ตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมามากกว่า 30 ปี กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลในภาคใต้หลายจังหวัด ทั้งภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงาและสตูล ได้พยายามเรียกร้องและติดตาม กระตุ้นให้รัฐดำเนินการแก้ไขปัญญาสิทธิในที่ดินมาโดยตลอด แต่ปัญหาดังกล่าวกลับยังไม่ถูกคลี่คลาย ในขณะที่ชาวเลยังคงต้องทนอยู่กับสภาวะไร้ซึ่งสิทธิในที่ดิน ที่ตนเป็นผู้บุกเบิกและอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคน โดยที่ไม่รู้ว่าจะถูกฟ้องดำเนินคดีเมื่อใด ดังเช่นกรณีของชาวเลอูรักลาโว้ย เกาะหลีเป๊ะ
ในอดีตชาวเลอูรักลาโว้ย เกาะหลีเป๊ะ เคยเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและแก้ไขการออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2533 ตามหนังสือ มท 0100/6411 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2533 พบว่า เมื่อมีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ราษฎรบนเกาะหลีเป๊ะมีการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. 1) และออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดิน (น.ส. 3) จำนวน 17 แปลง แต่เนื่องจากกรมที่ดินตรวจสอบพบความผิดปกติในกระบวนการออก น.ส. 3 โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 12 แปลง และควรมีการเพิกถอน อีกทั้งการทำแผนที่แนวเขตที่ดินของกรรมการชุดต่างๆ พบว่าที่ดินบางแปลงซ้อนทับกัน และที่ดินเกือบทุกแปลงออกทับ เส้นทางสาธารณะ ทางน้ำสาธารณะทั่วทั้งเกาะหลีเป๊ะ
ทั้งนี้ จากรายงานการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อปี 2547 เรื่องสิทธิในที่อยู่อาศัยและที่ทำกินกรณีเกาะหลีเป๊ะ ได้มีการเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาต่อกระทรวงมหาดไทย ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3) บนเกาะหลีเป๊ะที่ออกโดยมิชอบ โดยให้ดำเนินการภายใน 6 เดือน นับแต่ได้รับรายงานฉบับดังกล่าว แต่จนถึงปัจจุบันปัญหาเรื่องที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ซ้ำร้ายชาวเลหลายคนยังถูกฟ้องร้องดำเนินคดีขับไล่ออกจากที่ดินและพื้นที่สาธารณะบนเกาะหลีเป๊ะ ยังถูกปิดกั้นไม่ให้ใช้ประโยชน์ รวมถึงมีการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ทับพื้นที่ดังกล่าว จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนทั่วทั้งเกาะหลีเป๊ะ
จากปัญหาดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความล่าช้าในกระบวนการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินของรัฐต่อกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลภาคใต้ที่ทำให้ชาวเลต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิของตนจากรุ่นสู่รุ่น
Relate topics
- รมว.แรงงาน มอบกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เร่งช่วยเหลือครอบครัวแรงงานกลับจากอิสราเอล ให้มีรายได้ และอาชีพติดตัว**“พิพัฒน์ รัชกิจประ
- "รมว.พิพัฒน์" มอบนโยบาย 'สสปท.' ทำงานเชิงรุก เน้นสร้างวัฒนธรรมเชิงป้องกันให้สังคมไทยนายพิพัฒน์ รัชกิจประ
- “นายกชาย” แถลงไม่ได้ทำผิกกฎหมายเลือกตั้ง ตามที่ผู้สมัครพรรค “ลุงตู่” ฟ้อง กกต.ตามที่ นายปรีชา สุขเ
- “ภูมิใจไทย” ประกาศจะทำภาคใต้ให้เป็นด้ามขวานทองของจริงทั้งแท่ง หวังเจาะ ‘ตรัง’ 2 ที่นั่ง**“เสี่ยหนู” ออกงานท
- เลขาฯ ศอ.บต.ยันพร้อมดูแลนักกีฬา และนักท่องเที่ยวให้ปลอดเหตุ-ปลอดภัย ช่วงกิจกรรมวิ่งเทรลเบตง**เลขาธิการ ศอ.บต. ย
- เจ้าของบุหรี่เถื่อนโวยตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ขังคนขับ 6 ชั่วโมง-เรียกค่าประกันคนละ 1.5 แสนบาท**ตำรวจสิเกาจับบุหรี
- ไม่ทิ้งประชาชน! ปชป.ชูนโยบายพัฒนาชายแดนใต้ควบคู่ขับเคลื่อนสันติภาพสู่สันติสุข**ปชป.ยันไม่ทิ้งประช
- "ปชป." จี้คลังยกเว้นหลักเกณฑ์ใหม่แก่ผู้ประกอบการชายแดนใต้รายเก่าที่เคยร่วมโครงการ**รองหัวหน้าพรรคประช
- ศอ.บต.ส่ง 120 ชาวไทยมุสลิมชายแดนใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบียเลขาธิการ ศอ.บต. ส่ง
- ไม่มีล้มเลิก! "ประวิตร" ยันเดินหน้านิคมอุตสาหกรรมจะนะอยู่ระหว่างทำ SEA**ประธาน กพต.ยืนยัน
- "นิพนธ์" ชี้กรณีครูสาวพาดพิง "พล.อ.เปรม" ไม่เหมาะสมสร้างความไม่สบายใจให้คนจำนวนมาก**"นิพนธ์" จี้กระทรว
- เปิด 14 โครงการของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลแด่พี่น้องจังหวัดชายแดนใต้วันนี้ (24 ธ.ค.) นาง
- แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานพิธีสวดเจริญจิตภาวนาถวายเป็นพระราชกุศลแด่ "เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา"**แม่ทัพภาคที่ 4 นำข
- มองยุทธศาสตร์ “ประชาธิปัตย์” ณ ปลายด้ามขวานของแม่ทัพเลือกตั้ง ”นิพนธ์ บุญญามณี”**ทัศนะ โดย.. เมือง
- เหมือนไม่อยากขาย! คลังน้ำมันตั้งราคาสูง จ็อบเบอร์กัดฟันขายปั๊มอิสระแพงกว่าหน้าปั๊มแบรนด์ 3 บาทต่อลิตรคลังน้ำมันประกาศราคา
- แม่ทัพภาค 4 เร่งหาข้อเท็จจริงฝึก รด.ปี 1 หามเข้าโรงพยาบาล 17 คนแม่ทัพภาค 4 สั่งเ
- ศอ.บต. เป็นผู้แทนมอบพวงหรีดรองนายกรัฐมนตรีเคาพรศพคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจรองนายกรัฐมนตรี ม
- เจ้าหน้าที่ ศอ.บต.พร้อมใจแต่งกายชุดดำและขาวยืนไว้อาลัยต่อโศกนาฏกรรมที่หนองบัวลำภูเลขาธิการ ศอ.บต.
- มอดไม้เหิมยิงสกัด จนท.ปกป้องป่าสงวนแห่งชาติขณะบุกจับ ตรวจยึดไม้เพียบมอดไม้เหิมเกริม!
- ระห่ำ! ทหารพรานเที่ยวผับทะเลาะวิวาท ควงปืนกราดยิงดับ 2 สาหัส 1 ถูกรวบทันควันทหารพรานเที่ยวผับ
- จับมหาเศรษฐีมาเลย์หมื่นล้านฟอกเงินค้ายา ผุดอาณาจักรบันเทิงเมืองชายแดนสงขลา"บิ๊กโจ๊ก" นำกำลั
- “พรรคประชาชาติ” จัดอบรมหลักสูตรการเมืองประชาชาติ รุ่นที่ 1“พรรคประชาชาติ” จ
- ศรชล.ภาค 2 ออกตรวจทะเลอ่าวไทยในพื้นที่ปัตตานีเข้มปราบปรามการทำผิดทางทะเลศรชล.ภาค 2 ออกลาด
- จินตกรรมไม่แหว่ง / บทกวีโดย “ปิยะโชติ อินทรนิวาส”ขี้หูลั่นสั่นไหวให้อ
- สายการบินนกแอร์ยืนยันเปิดเเส้นทาง "กรุงเทพฯ เบตง" พร้อมบิน 14 มี.ค.นี้บริษัท สายการบินน
- อลังการงานสร้าง! สั่งย้ายเศียรหลวงพ่อทวดจากพุทธมณฑล จ.สงขลา หลังมีปัญหาเรื่องที่ดินรองเจ้าคณะอำเภอเม
- ม.ราชภัฏยะลา เปิดแม่ลาน FreshMart ตลาดนัดออนไลน์ หนุนเศรษฐกิจและทุนชุมชนมีความเข้มแข็ง**มหาวิทยาลัยราชภัฏย
- รองนายกฯ ประกาศมาตรการ 17+1 บริหารจัดการผลไม้เชิงรุก จชต. ชื่นชม ศอ.บต.ทำงานดี“จุรินทร์ ลักษณวิ
- รอง ผอ.ศปพร.ลงพื้นที่เชื่อมต่อภาคีเครือข่าย พร้อมส่งเสริมการปลูกโกโก้ พืชเศรษฐกิจใหม่เพิ่มรายได้**พ.อ.ภัทรชัย แทนขำ
- ICRC ส่ง “นายพลนอกราชการ” ล็อบบี้ขอคืนบทบาทแทรกแซงไฟใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- 3 ผู้ใหญ่บ้านวางกฎเหล็กประกาศงดใช้สถานที่อ่างเก็บน้ำพรุบัว3 ผู้ใหญ่บ้านวางก
- กระหึ่มเมืองยะลา! ม็อบรถยนต์-จักรยานยนต์ชูสามนิ้วบีบแตรไล่ "พล.อ.ประยุทธ์"**CAR & MOTORCYCLE M
- อบจ.สงขลาเดินหน้ารุกสำรวจเขาคอหงส์เตรียมสร้าง “สกายวอล์ค” เป็นแลนด์มาร์คใหม่อบจ.สงขลาเดิ
- ผู้ว่าฯ สงขลาติดตามมาตรการควบคุมโควิด-19 ใน 3 ชุมชน อ.เมืองสงขลาวานนี้ (15 มิ.ย.) ที
- ม.ราชภัฏยะลามอบเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา สำหรับนักศึกษาใช้เรียนออนไลน์**มหาวิทยาลัยราชภัฏย
- อาก้า อส.เมืองนราธิวาสหายจากคลัง 28 กระบอกอีก 3 อำเภอก็หายยังไม่ทราบจำนวน**ผกก.สภ.เมืองนราธิว