The Agenda South

เปิดใจ “สิรภพ” ผอ.ภูมิใจไทย หวังกวาดที่นั่ง ส.ส.ทุกเขตในชายแดนใต้

by torn @17 ม.ค. 2565 19:52 ( IP : 1...109 ) | Tags : สถานการณ์ - ปรากฎการณ์ , วาระภาคใต้
photo  , 960x960 pixel , 110,396 bytes.

เปิดใจ “สิรภพ ดวงสอดศรี” ผอ.พรรคภูมิใจไทย หวังกวาดที่นั่ง ส.ส.ทุกเขตในชายแดนใต้ เร่งผลักดันปัญหาเรื่องปากท้องของชาวบ้าน ขณะที่ “นัจมุดดีน อูมา” อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ระบุซบ “ภูมิใจไทย” ย้ำลาออกจากกันแต่โดยดี

วันนี้ (17 ม.ค. 65) ที่ร้านคอฟฟี่แอนด์มีตติ้งพอยท์ อ.เมือง จ.ปัตตานี นายสิรภพ ดวงสอดศรี หรือพี่ใหญ่ ผู้อำนวยการพรรคภูมิใจไทย และที่ปรึกษา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นำทีม ส.ส.พรรคภูมิใจไทยชายแดนใต้ และทีมว่าที่ผู้สมัครใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกเขต แนะนำตัว และเปิดใจตอบคำถามกับสื่อมวลชนใน จ.ปัตตานี โดยย้ำว่าพรรคภูมิใจไทย หวังได้ ส.ส.ทุกเขตในพื้นที่ปลายด้ามขวาน

นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้อำนวยการพรรคภูมิใจไทย เปิดใจในหลายประเด็นให้สื่อมวลชนซักถาม ถึงการขยับเตรียมการของพรรคในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เป็นอย่างไรบ้าง หลายพรรคในกรุงเทพฯ ถามว่าทำไมต้องไปจับมือพรรคโน้น พรรคนี้ ผมบอกว่าที่นี่เป็นอย่างนี้แหละ ธรรมชาติของบ้านเรา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือรู้จักกันหมด แม้ก่อนหน้านี้แยกกันไปอยู่พรรคอื่น สุดท้ายก็กลับมาเจอกัน เสน่ห์ของบ้านเรา คือแข่งกันในเวทีการเมืองเต็มที่ หลังเลิกก็กินน้ำชากาแฟกันได้ตลอด คนบ้านเดียวพี่น้องกัน ที่นี่เอาหัวใจมาก็พอ ที่ผ่านมาเราพยายามผลักดันเรื่องโควิด-19 มาก ไปงอแงกับภาครัฐตั้งแต่วัคซีนยังไม่ค่อยมี จนมีแล้วต้องมียี่ห้ออีก หลายฝ่ายได้ร่วมกันผลักดันในสถานการณ์โควิด-19 รอบแรก

มองเรื่องเสียงกระเพื่อม และเสียงกระทบกระทั่งในโซเชียลมีเดียในการถูกโจมตีอย่างไร การทำงานของพวกผม คือให้เกียรติและเคารพกัน จะสู้ให้ตายกันยังไง ไปนั่งร้านไหนก็เจอกัน โกรธกันไม่ได้หรอก ต้องคุยกัน เพียงแต่เราต้องมีมาตรฐานของพวกเราก่อนว่าต้องเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราเจอ ส.ส.ต่างพรรคกันประจำ คุยกันปกติ แต่กองเชียร์อาจมีอารมณ์ร่วม เช่น ในโซเชียลคนไหนที่คุยได้ผมจะยกหูไปหาเลย สื่อสารโดยการอธิบายจะเข้าใจกันกว่าวิธีอื่น เราก็ไม่อยากดำเนินคดีเพราะเสียเวลา ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำเช่นนั้น เพราะผู้โพสต์บนโซเชียลอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากการรับข้อมูลมาไม่เต็มที่ โดยในทางการเมืองถ้าอธิบายกันก็จบ ซึ่งไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนหรือรำคาญเมื่อเจอโลกโซเชียล ถ้าเราคิดว่าอธิบายได้ สื่อสารได้ ก็ไม่ต้องกังวล

ตอนนี้ได้คนสมัครครบหรือยัง วางตัวว่าที่ผู้สมัครไปถึงไหน มีคนอยากทำงานร่วมกับทางเราเยอะมาก แต่ทุกคนได้ลองที่จะต้องทำ ต้องได้ตัวเลือกที่ดี และแข็งแรงที่สุด แต่ทุกคนที่ทำงานในพรรคนี้มีที่ยืนหมด สามารถทำงานได้ บางคนอาจไม่ได้เป็น ส.ส. แต่เป็นเลขารัฐมนตรีก็มี เช่น ที่ จ.นราธิวาส เราพยายามดูแลนักการเมืองของเราให้ทำงานในศักยภาพที่เขามี ในภาพรวมประมาณปลายเดือนมกราคมนี้จะนิ่งแล้ว สามารถประกาศรายชื่อทั้งหมด คือผู้สมัครในขณะนี้ สำหรับ จ.ปัตตานี เขต 1 พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา, เขต 2 อับดุลบาซิม อาบู, เขต 3 อับดุลกอฮา อาแวปูเต๊ะ, เขต 4 บูรฮันธ์ สาเม๊าะ สำหรับ จ.ยะลา เขต 1 เกษมสันต์ สาแม, เขต 2 ดร.อับดุลฮาฟิซ หิเล และ จ.นราธิวาส เขต 1 สมบูรณ์ จิตรเพ็ญ, เขต 3 นัจมุดดีน อูมา, เขต 4 สุกรี มะเต๊ะ (คนเดิม) และเขต 5 น.ท.สุกรี ศรีริกานนท์

เทคนิคมัดใจคนจากพรรคประชาชาติ ต้องบอกตรงๆ หลายคนในพรรคประชาชาติ เรารู้จักกันมานาน เช่น กับ ดร.ฮาฟิช หิเล ผมไปเจอกันที่ร้านกาแฟบ่อย ซึ่งหลายคนก็สงสัยว่าซื้อมาเท่าไหร่ ซึ่งผมบอกว่าไม่ใช่ ไม่เกี่ยวข้องเรื่องเงิน ผมยกตัวอย่างถ้าครอบครัวผัวเมียอยู่ด้วยกัน วันที่หย่ากันมันไม่ได้มีปัจจัยเรื่องเงินอย่างเดียว มีปัจจัยเรื่องอื่นด้วย การเคารพกัน การให้เกียรติกัน ไม่ใช่ไม่มีเงินให้ก็จะเลิกกัน “ผมพูดในมุมมองของผม ไม่ได้ไปก้าวล่วงใคร”

นโยบายพรรคจะแก้ปัญหาอะไรก่อนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาพื้นฐานบ้านเราที่พยายามผลักดันตั้งแต่คราวที่แล้ว คือจัดตั้งพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งพิมพ์เขียวตัวนี้ วันนี้ก็ยังอยู่ เราพยายามผลักดันตลอด จัดเวทีสัมมนา เสวนา สรุปมาเยอะมากแล้ว แต่พอการร่วมรัฐบาลเรามีเสียงแค่นี้ ข้อจำกัดในการจัดตั้งรัฐบาลเยอะ แต่ต่อไปเราจะต้องเอาตัวนี้มาใช้ให้ได้ เพราะเราต้องผลักดันให้ได้ อันนี้เป็นเรื่องใหญ่ ผมว่าปัญหาปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ของบ้านเรา ส่วนเรื่องอื่นที่เราพยายามผลักดัน โชคดีที่ผมเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาด้วย บ้านเรามีความเป็นอัตลักษณ์สูง ผลไม้ ภูเขา ทะเล เรามีหมด ปัญหาคือคนไม่มาเที่ยว ถ้าเราดันเต็มที่ รายได้ที่จะเข้ามาบ้านเราเยอะ เรื่องกีฬาบ้านเราก็เป็นที่หนึ่ง ประกอบด้วยเรื่องมวย ฟุตบอล แหล่งท่องเที่ยวก็ไม่ได้เป็นรองใคร

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่ นายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ลาออกจากพรรคประชาชาติ เพื่อมาซบพรรคภูมิใจไทย ทั้งที่เคยโจมตีนโยบายปลูกกัญชาของพรรคภูมิใจไทยมาตลอด ด้วยผลงานหัวหน้าพรรค และฐานเสียงของตนเองที่ทำงานการเมืองมากว่า 30 ปี มั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน พร้อมเปิดใจเหตุผลที่ลาออกจากพรรคประชาชาติ และเรื่องคาใจกันในหลายประเด็น

นายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ เผยว่า เหตุผลในการลาออกจากพรรคประชาชาติ โดยก่อนที่จะออกจากพรรคประชาชาติ ได้เข้าพูดคุยกับ อาจารย์วันมูฮำหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นที่เข้าใจกัน เหตุผลที่ออกอาจารย์วันนอร์เข้าใจดี การตัดสินใจมาอยู่พรรคถูมิใจไทย เนื่องจากสมัยที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าในแต่ละพรรคใหญ่ๆ มีปัญหาอยู่ตลอดเกือบทุกพรรค มีคนเข้าคนออก แต่จะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคเดียวที่มีแต่คนเข้า แต่ไม่มีคนไหนออก

อีกทั้งด้านผู้อำนวยการพรรคฯ ได้กล่าวมา นโยบายของพรรคภูมิใจไทยเป็นรูปธรรม สมกับคำพูดไว้ คือพูดแล้วทำ ทำได้จริง ที่ผ่านมาเราเห็น ส.ส.ภูมิใจไทยในชายแดนภาคใต้ ได้ผลักดันนโยบายให้เห็นเป็นรูปธรรม และเห็นโอกาสได้ทำงานทางการเมืองเห็นชัดเจนกว่าพรรคอื่น จึงตัดสินใจมาด้วยนโยบายของพรรค และสุดท้ายถ้าพรรคที่ผมจะไป พรรคนั้นต้องเป็นพรรคที่เป็นรัฐบาลเท่านั้น ถ้าย้ายไปเป็นฝ่ายค้านก็ไม่มีประโยชน์อะไร

วันนี้พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทย ประกอบกันเป็นคณะรัฐบาล สมมุติว่าคราวหน้า 4 พรรคนี้มีปัญหาอยู่ด้วยกันไม่ได้ ตามแรงสไลด์ที่เป็นข่าว ถามว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลเพียงพรรคเดียวได้หรือไม่ ก็ไม่ได้ ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือพรรคภูมิใจไทย ไปซ้ายก็ถูก ไปขวาก็ถูก ผมคิดว่ามาตรงนี้ถูกทางแล้ว และนี่คือเหตุผล

Relate topics