ห้วงเวลา “เปลี่ยนแปลงใหญ่” บนแผ่นดินไฟใต้?!
ทัศนะ : ไชยยงค์ มณีพิลึก
เหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยัง “ซ้ำรอยประวัติศาสตร์” ล่าสุดปล้นปืนและวางเพลิงที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส โดยกองกำลังติดอาวุธบีอาร์เอ็นกว่า 10 คนบุกจับเจ้าหน้าที่เป็นตัวประกัน แล้วกวาดเอาอาวุธปืนราชการไปกว่า 10 กระบอก เป็นไปตามหลักคิด “ปืนของรัฐ คือปืนของเรา”
ก่อนล่าถอยได้วางเพลิงอาคารสำนักงานเสียหายทั้งหมด รวมทั้งวางกับดักชุดตรวจที่เกิดเหตุไว้เป็นระเบิดรวม 3 จุด ซึ่งเก็บกู้ได้ ไม่พลาดท่าเสียทีเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา นับเป็นว่าโชคดีที่ปฏิบัติการบีอาร์เอ็นครั้งนี้ไม่มุ่งร้ายต่อชีวิตเจ้าหน้าที่ มีเพียงตุ๊บตั๊บใส่บางคนที่มีข่าวเพิ่งถูกย้ายมาจากถิ่นอื่นจนเป็นชนวนให้เกิดเหตุครั้งนี้
เหตุปล้นปืนหน่วยงาน “พลเรือน” ในชายแดนใต้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ช่วงปี 2542-2545 เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ตอนนั้นบีอาร์เอ็นเริ่มก่อเหตุร้ายแรงด้วยการเผาโรงเรียนถึง 38 โรงในคืนเดียว ถือเป็นการชิมลางก่อนที่เกิด “วันเสียงปืนแตก” ตามมา ในคืนในวันที่ 4 มกราคา 2547 หรือเหตุปล้นปืนค่ายปิเหล็งอันเป็นจุดเริ่ม “ไฟใต้ระลอกใหม่”
ช่วงนั้น หน่วยงานพลเรือนถูกปล้นปืนไปกว่า 30 กระบอก ถือเป็นจุดเริ่มใช้นโยบาย “ปืนของรัฐ คือปืนของเรา” ของบีอาร์เอ็น เพียงแต่หน่วยงานความมั่นคง “ไม่เคยสำเหนียก” กับบทเรียนที่เกิดขึ้น จึงไม่ได้ใส่ใจป้องกัน เพราะเชื่อว่าหน่วยงานพลเรือนไม่ใช่เป้าหมาย จึงปล่อยให้ป้องกันตนเองกันไปเพียงลำพัง
เรื่องการปล่อยหน่วยงานรัฐฝ่ายพลเรือนให้อยู่ตามลำพัง ให้ป้องกันตัวกันเอาเองตามมีตามเกิด เรื่องนี้ถือเป็นจุด “เปราะบาง” อย่างยิ่ง เพราะหากบีอาร์เอ็นต้องการเข้าโจมตีเพื่อการสร้างสถานการณ์ หรือต้องการปล้นปืนเมื่อไหร่ ก็ทำได้ง่ายประดุจปอกกล้วยใส่ปากด้วยซ้ำ
หลังเกิดเหตุปล้นปืนแล้ววางเพลิงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา สังคมต้องติดตามดูว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะดำเนินการต่อไปอย่างไร โดยเฉพาะการวางมาตรการป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับหน่วยงานพลเรือนซ้ำอีก
ต้องไม่ลืมว่า เจ้าหน้าฝ่ายพลเรือนมีขีดความสามารถป้องกันตนเองไม่มากนัก เพราะไม่ได้ถูกฝึกมาเพื่อต่อสู้กับกองกำลังติดอาวุธบีอาร์เอ็น ประเด็นนี้คงไม่กล้า “สอนสังฆราช” แต่เป็นเรื่องที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และโดยเฉพาะ “ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 4” คนใหม่อย่าง พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ต้องคิดอ่านเอาเอง
ประเด็นต่อมา มีเสียงวิจารณ์ว่า หน่วยงานความมั่นคงจะประกาศให้บีอาร์เอ็นเป็น “องค์กรก่อการร้าย” ซึ่งส่วนใหญ่ของ “นักวิชาการ” และ “ภาคประชาสังคม” ในพื้นที่ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการยกสถานะสู่ “สากล” และเปิดช่องให้ไปจับมือ “องค์กรก่อการร้ายสากล” โดยเฉพาะที่เคลื่อนไหวอยู่ในตะวันออกกลางและฟิลิปปินส์
อีกทั้งกังวลว่าจะทำให้ “โต๊ะพูดคุยสันติสุข” ขับเคลื่อนต่อลำบาก เพราะเป็นการเสริมความได้เปรียบให้ฝ่ายบีอาร์เอ็น และที่สำคัญจะเป็นเงื่อนไขสำคัญให้ “องค์กรต่างชาติ” เข้ามาแทรกแซงปัญหาไฟใต้ของไทยเราได้สะดวกขึ้น
ในอีกแง่มุมของไฟใต้ระลอกใหม่ที่ดำเนินมา 20 ปี หน่วยงานความมั่นคงให้นิยามว่าเป็น “ปัญหาความไม่สงบ” ไม่ใช่ “การก่อการร้าย” โดยไม่ยอมรับว่าบีอาร์เอ็นเป็น “องค์การก่อการร้าย” ดังนั้นนโยบายในการแก้ปัญหาจึงเป็นอีกรูปแบบที่ไม่เป็นไปตามหลักการที่ควรจะเป็น
ตลอด 20 ปีไฟใต้ระลอกใหม่คงประจักษ์ชัดแล้วว่า นโยบายการแก้ปัญหาในกรอบนิยามความไม่สงบจึงไม่ได้ผล “ถมงบประมาณไปแล้วถึงกว่า 600,000 ล้านบาท” แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะไฟใต้มอดดับ ทว่ากลับมีพัฒนาการไปในทิศทางที่ไม่น่าพึงพอใจมากขึ้น
โดยเฉพาะประเด็น “สู่สากล” ต้องพึงระวังว่า เวทีพูดคุยสันติสุขระหว่างรัฐไทยกับบีอาร์เอ็นมี “ประเทศที่สาม” อย่างมาเลเซียทำหน้าที่ผู้อำนวยความสะดวก แถมยังมีตัวแทน “องค์กรชาติตะวันตก” เป็นผู้สังเกตการณ์ มีเอ็นจีโอต่างชาติอย่าง “เจนีวาคอลล์” ทำหน้าที่ “พี่เลี้ยง” ให้ฝ่ายบีอาร์เอ็นอยู่ทุกวันนี้
หากพิจารณาจะเห็นว่าวันนี้บีอาร์เอ็นน่าไม่จะแตกต่างกับ “องค์กรก่อการร้าย” ขาดเพียงยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ ไม่เปิดเผยตัว “แกนนำ” เพราะต้องการให้เป็น “องค์กรลับ” ทั้งที่ประกาศเป้าหมายชัดมาตลอดว่า “ปาตานีเมอร์เดก้า” หรือการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งไม่ใช่แค่ “เขตปกครองพิเศษ” หรือ “เขตปกครองตนเอง”
การชิง “ตัดหน้า” ประกาศให้บีอาร์เอ็นเป็นองค์การก่อการร้าย อาจเป็นผลดีที่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบการแก้ปัญหา เพราะการใช้กฎหมายกับพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ “การก่อความไม่สงบ” กับ “การก่อการร้าย” แตกต่างกัน แต่ที่ไฟใต้ดำเนินมาต่อเนื่อง 20 ปีทำไมยังไม่เห็น “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” แต่อย่างใด
การประกาศให้บีอาร์เอ็นได้เป็นองค์กรก่อการร้ายที่มีความเป็นสากลมากขึ้น อาจทำให้การเจรจาระหว่าง “รัฐบาลไทย” กับ “รัฐบาลมาเลเซีย” เป็นไปในรูปแบบใหม่ เพราะเสือเหลืองไม่ใช้ให้ที่พักพิงแก่บรรดาแกนนำ “กลุ่มก่อความไม่สงบ” แต่กลายเป็นหนุน “กลุ่มก่อการร้ายสากล” ไปในทันที
เรื่องนี้ต้องติดตามกันต่อไปว่า รัฐบาล น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร จะขับเคลื่อนต่อไปอย่างไร ซึ่งคงต้องฟังเสียงหน่วยงานความมั่นคงด้วย ไม่ใช่ฟังแต่เสียงนักวิชาการและภาคประชาสังคม ซึ่งในความเป็นจริงนักวิชาการและภาคประชาสังคมมีทั้งพวก “โลกสวย” และ “อิงแอบแนบชิด” กับฝ่ายบีอาร์เอ็น
อีกประเด็นที่นักวิชาการ ภาคประชาสังคม เอ็นจีโอ นักสิทธิมนุษยชน รวมถึงพวกใต้ปีกทางการเมืองบีอาร์เอ็น กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันคือ ไม่เห็นด้วยกับข่าวการเปลี่ยนตัว “หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข” จาก “พลเรือน” ที่ปัจจุบันคือ “ฉัตรชัย บางชวด” รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปเป็น “นายทหาร”
แต่โดยข้อเท็จจริงไม่ว่า “หัวหน้าคณะพูดคุย” หรือ “ประธานฝ่ายเทคนิค” มีอำนาจไม่ต่างกัน กล่าวคือ ต่างก็ไม่มีอิสระในการตัดสินใจเมื่อเจรจากับบีอาร์เอ็น ซึ่งทุกอย่างมี “ใบสั่ง” ทั้งนั้น สังเกตได้จากนายฉัตรชัยทำหน้าที่มากว่า 1 ปี แต่ไม่สามารถลงนามร่างข้อตกลง (JCPP) ตามที่คาดหวังอะไรได้
ดังนั้นหัวหน้าคณะพูดคุยไม่ว่าเป็นพลเรือน ทหารหรือตำรวจ นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ ในเมื่อการเจรจาเป็นเพียงสัญลักษณ์ของ “ความจอมปลอม” ในการสร้างสันติภาพ เพราะทั้งสองฝ่ายต่าง “รู้เช่นเห็นชาติ” หรือไม่ต่างจาก “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” หากเปรียบก็เหมือน “นอนเตียงเดียวกัน แต่ฝันคนละเรื่อง” นั่นเอง
และที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษด้วยคือ มีข่าวว่าจะย้าย “นันทพงศ์ สุวรรณรัฐ” จากรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ไปนั่งขัดตาทัพในตำแหน่ง “เลขาธิการ สมช.คนใหม่” 1 ปีก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ
ทั้งหมดทั้งปวงคือ “ความเปลี่ยนแปลง” ที่กำลังเกิดขึ้นและมีผลโดยตรงต่อสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยก็ต้องจับตากันใกล้ชิดต่อไปว่าจะสร้าง “ผลบวก” หรือ “ผลลบ” ต่อกับประชาชนในพื้นที่ และโดยเฉพาะต่อมาตรการดับไฟใต้นับเนื่องจากนี้ไป
Relate topics
- จับตา “ตุลาเดือด” โหมไฟใต้โชนเปลวทัศนะ: **ไชยยงค์ มณี
- แนะ 2 เรื่องให้ “รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง” ทำเพื่อยุติการค้าสงครามชายแดนใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “อุ๊งอิ๊ง” กับภารกิจลบข้อหาพ่อจุดไฟใต้ระลอกใหม่**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- 3 เรื่อง 2 แนวทางที่รัฐบาลต้องทำเพื่อดับไฟใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- คาร์บอมบ์แฟลตตำรวจฉุดความเชื่อมั่น “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” สู่ก้นเหวทัศนะ : **ไชยยงค์ มณ
- รัฐบาลและกองทัพควรนำกระเช้าไปกราบขอบคุณผู้นำบีอาร์เอ็น?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จับตา “กองทัพ” ขอเพิ่มงบไล่ให้ทันพัฒนาการแบ่งแยกดินแดน**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “ครม.ใหม่” ไม่ยึดโยง “มาตรการดับไฟใต้”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จากลูกแม่ค้าน้ำผึ้งแว่นสู่คหบดีพันล้าน ‘ผู้ใจบุญแห่งภาคใต้’ มุ่งบริจาคเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ด้วยการยึดมั่น “ยิ่งให้ยิ่งได้”โดย.. **ไชยยงค์ มณีร
- ทำไมไฟใต้ยิ่งโชนเปลวตลอดช่วง 7 เดือนของ “รัฐบาลตระบัดสัตย์”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- สิ่งที่แอบแฝงกับการฝึก “คอบร้าโกลด์” ไทย-สหรัฐฯ คือการตั้ง ‘ฐานทัพ’ ในไทยใช่หรือไม่?!**ทัศนะ โดย.. เมือง
- หยุด “รอมฎอนเลือด” ทำลายการบ่มเพาะ “นักรบหน้าขาว”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จาก “รอมฎอนเลือด” ถึง “สงกรานต์-เข้าพรรษาเดือด”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- หยุดพิธีศพบิดเบือนไม่ได้ อย่าหวังไฟใต้จะมอดดับ**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ชำแหละ “แผน JCPP” หยุดฝันบีอาร์เอ็นลงนามด้วย**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ และเขียนบทใหม่ที่สวยงามสำหรับจีน-ไทย**โดย.. อู๋ ตงเหมย ก
- “ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง” ท่ามกลางความระอุอ้าวบนแผ่นดินไฟใต้ทัศนะ: **ไชยยงค์ มณี
- มองทะลุฉากหลัง “กระบวนการเจรจา” กับบีอาร์เอ็น**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ปัญหาของ “โคบาลชายแดนใต้” อยู่ที่เกษตรกร ‘ระบบราชการ’ หรือบริษัทผู้เป็นเจ้าของวัว**โดย.. ไชยยงค์ มณีพ
- ทำไม “รัฐบาลนิดหนึ่ง” ยังงมโข่งอยู่กับวิกฤตไฟใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “ปีมังกรทอง” หรือ “ปีมังกรไฟ” ที่ชายแดนใต้?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- เก็บซับ “บทเรียน” จากอุทกภัยใหญ่ไปใช้ “ดับไฟใต้”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ต้อนรับก้าวใหม่ของการร่วมสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”โดย.. **อู๋ ตงเหมย ก
- อย่าทน! กลไกรัฐพิการ เพื่อนบ้านซ่อนดาบในรอยยิ้ม**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ล้าง “กลุ่มนายพลผลประโยชน์” จากคณะพูดคุยสันติสุขพลเรือน?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- เล่าเรื่องประชาธิปไตยคนจน-ธนาคารแพะหวะแก้จน (จบ)**ทัศนะ โดย.. รองศาส
- งานในอนาคตกับการพัฒนาบุคลากรดิจิทัล**ทัศนะ โดย.. ผศ.ดร.
- เล่าเรื่องประชาธิปไตยคนจน-ธนาคารแพะหวะแก้จน (2)ทัศนะ โดย.. **รองศาส
- ข้อท้าทายของปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย : ภารกิจและบทบาทของกระทรวงยุติธรรมโดย.. **พันตำรวจเอก
- เล่าเรื่องประชาธิปไตยคนจน-ธนาคารแพะหวะแก้จน (1)**ทัศนะ โดย.. รองศาส
- พัฒนาการธุรกรรมกับช่องทางการเงินดิจิทัลจากประเทศอินโดนีเซียสู่ประเทศไทย**ทัศนะ โดย.. ผศ.ดร.
- “รัฐบาลนิดหนึ่ง” เป็นร่างทรง “ร้าบานบิ๊กตู่” นำไฟใต้สู่ยุคมืด**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- อย่าฝันไฟใต้จะดับเพราะรัฐบาลพลเรือนใต้ปีก “ระบอบทักษิณ” ใต้บงการ “กองทัพ”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- การพัฒนาชายแดนใต้ให้ได้ผล “เพื่อไทย” จะทำอะไรก่อนหลัง ระหว่าง “คลองไทย แลนด์บริดจ์ และนิคมอุตสาหกรรมจะนะ”โดย..** เมือง ไม้ขม*
- มีโอกาสที่ “สงครามอิสราเอล-ฮามาส” จะลามเข้าเติมเชื้อไฟใต้?!ทัศนะ : **ไชยยงค์ มณ
- จากขึ้นบัญชีดำ “ผู้มีอิทธิพล” ถึงการปราบสินค้าเกษตรหนีภาษีและแปลง สปก.4-01 ให้เป็นโฉนด จะแก้ปัญหาได้จริงหรือโดย.. **ไชยยงค์ มณีพ