The Agenda South

สนามเลือกตั้ง “ปัตตานี” แข่งดุ “ประชาธิปัตย์-ประชาชาติ–ภูมิใจไทย” ใครจะเข้าวิน

by sorawit @14 มี.ค. 2566 15:25 ( IP : 184...94 ) | Tags : เคียงข่าว - วิเคราะห์ , วาระภาคใต้
photo  , 1280x1280 pixel , 141,765 bytes.

โดย.. ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล

การเลือกตั้งในปี 2566 ในการแบ่งเขตของ กกต.ครั้งล่าสุด ปรากฏว่า จ.ปัตตานีมีเขตเลือกตั้งเพิ่มมาอีก 1 เขต จาก 4 เขตเป็น 5 เขต ทำให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีจำนวน ส.ส.เพิ่มจาก 12 เขตเป็น 13 เขตเลือกตั้ง ซึ่งแต่ละพรรค ทั้งพรรคเก่า-พรรคใหม่ต่างเร่งสรรหาผู้สมัครที่มีชื่อชั้นมาลงสมัคร เพื่อให้ประชาชนได้คัดเลือก ในขณะที่หลายพรรคยังหาผู้สมัครที่ได้ไม่ครบ ส่วนพรรคที่ได้ผู้สมัครแล้วก็เดินหน้าในการหาเสียงอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ “รัฐบาล “ ยังไม่ได้ประกาศ ”ยุบสภา” และ ”กกต." ก็ยังไม่ได้กำหนดวันเลือกตั้ง

ในวันนี้ จะนำไปเจาะสนามเลือกตั้ง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่เป็นสัญลักษณ์ของดินแดน 3 จังหวัดภาคใต้ ที่พรรคการเมือง ทั้งพรรคใหญ่ พรรคเล็ก พรรคขนาดกลาง ทั้งพรรคเก่าแก่และพรรคที่เพิ่งตั้งขึ้นที่เรียกว่า ”พรรคเฉพาะกิจ” ต่างส่งผู้สมัคร โดยหมายมั่นปั้นมือที่จะได้ ส.ส.ใน จ.ปัตตานี เพื่อแย่งชิง ส.ส.จำนวน 5 คน อย่างเต็มที่

และพรรคที่มีความพร้อมที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคแรกๆ ที่มีการประกาศชื่อผู้สมัคร ก่อนพรรคอื่นๆ และผู้สมัครของพรรคก็เดินหาเสียง ด้วยการ”พบปะประชาชน” ในเขตเลือกตั้ง” ตั้งแต่ก่อนปี 2566 ด้วยซ้ำ และ “ประชาธิปัตย์”ก็เป็นพรรคแรกๆ ที่ทำการเปิด”ปราศรัย” ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมีประชาชนมารับฟังการ”ปราศรัย” จาก”ขุนพล”ของพรรค อย่างเนืองแน่น

ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาเมื่อปี 2562 “ประชาธิปัตย์” ซึ่งไม่มีการเตรียมพร้อม รวมทั้งผู้สมัคร”ทิ้งพื้นที่” เนื่องจากการยึดอำนาจของ “คสช.” และรวมทั้งถูก”พรรครวมพลัง” ของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ที่มี”ฐานคะแนน”เดียวกัน”แย่งชิง” คะแนนเสียงไปบางส่วน ทำให้”ประชาธิปัตย์” ต้อง เสียที่นั่งให้กับพรรค”ประชาชาติ” 2 ที่นั่ง “ และ”พรรคภูมิใจไทย 1 ที่นั่ง” ทำให้  “ประชาธิปัตย์” ได้ ส.ส. จ.ปัตตานีเพียงเขตเดียวคือ เขตเลือกตั้งที่ 1 และ ส.ส.ของ”ประชาธิปัตย์” ที่ได้รับ”เลือกตั้ง” เข้ามา ด้วยคะแนนไม่ถึง 20,000 คะแนน คือ “อันวาร์ สาและ”  ซึ่งในการเลือกตั้งในปี 2566 “อันวาร์ สาาและ” ก็ได้”ซาโยนาระ” จาก”ประชาธิปัตย์”ไป”ซบอก” ของ”ลุงป้อม” เป็นลูกพรรคพลังประชารัฐ และลงสมัครในเขต 1 เพื่อ”ต่อกร” กับผู้สมัครของ”ประชาธิปัตย์” ที่เป็น”บ้านเก่า” ซึ่งเป็น”ที่เกิด” ทางการเมืองของตนเอง

ในการเลือกตั้งครั้งนี้”ประชาธิปัตย์” เลือกผู้สมัครหน้าใหม่ส่งให้”ประชาชน” ในพื้นที่ได้เลือกให้เป็น ส.ส.ทั้ง 5 เขต โดย เขต 1 ส่ง สนิท อาแว  อดีตกำนัน ต.ราตาปันนัง  อ.เมือง “สนิท นาแว” เคยลงสมัคร ส.ส.ในเขตนี้ ในนามพรรคการเมืองอื่น แต่”สอบไม่ผ่าน ครั้งนี้มา สวมเสื้อ”ประชาธิปัตย์” ซึ่งเป็นพรรคที่มี”คะแนนจัดตั้ง”จาก”สมาชิกพรรค” เมื่อบวกกับ”คะแนนส่วนตัว” ทำให้ถูกจับตามมองว่า “สนิท” เป็น “ตัวเต็ง” ของผู้สมัครในเขต 1 และหากมีการ “บริหาร” และการ”จัดการ” ที่ดี ทั้งจาก”พรรค” และจาก”ผู้สมัคร” มีโอกาสที่ “ประชาธิปัตย์” จะ”ปักธง” ได้ “ส.ส.” ในเขตนี้

เขตเลือกตั้งที่ 2 “ประชาธิปัตย์”ส่ง “มนตรี ดอเลาะ” อดีตนายก อบต.มะกรูด และอดีตนายกเทศบาล ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ส่วนในเขตที่ 3 “ประชาธิปัตย์” ส่ง” ดร.ยูในดี วาบา “ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามชื่อดังในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เป็นลูกชายของ “นิมุกตาร์ บาวา “ซึ่งเป็นผู้”กว้างขวาง” และมีประชาชน “นับหน้าถือตา” คนหนึ่งในพื้นที่ และเป็นอีก หนึ่งเขต ที่เป็น”ความหวัง” ของประชาธิปัตย์เขตเลือกตั้งครั้งนี้

เขต  4 “ประชาธิปัตย์” ส่ง “สุริยา กูทา” อดีตกำนัน ต.กระโด  และเขต 5 “ประชาธิปัตย์” ส่ง “คอเล็บ เจ๊ะนา” ซึ่งเป็น “ลูกชาย”ของ”สมมาตร เจ๊ะนา” อดีต ส.ส.ของ จ.ปัตตานี  ลง สมัครรับ”เลือกตั้ง”
ในการ”ปราศรัย” ของ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” ผู้เป็น”หัวหน้าพรรค” ยืนยันกับ” ประชาชน” ที่มารับฟัง”การปราศรัย” ถึงความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งนี้ของ”ประชาธิปัตย์”ที่ย้ำว่า “พร้อมมาเป็นปีแล้ว “ และพร้อมกว่าทุกพรรคการเมือง เพราะหลังจากที่”กกต. ประกาศเขตเลือกตั้งใหม่ จาก 4 เขต เป็น 5 เขต “ประชาธิปัตย์” ก็เปิดตัวผู้สมัครในเขต 5 แบบไม่”ลังเล” ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ “ประชาธิปัตย์” เสนอ”ยุทธศาสตร์” ในการ”สร้างเงิน ,สร้างคน ,สร้างชาติ” และการ”สร้างสันติภาพ “ เพื่อนำไปสู่”สันติสุข” เป็น นโยบาย ที่หลังการประกาศออกไป ได้รับเสียงตอบรับ จากประชาชนในพื้นที่ มีกลุ่มผู้นำประชาชนในพื้นที่ เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น และร่วมกัน”ผลักดัน” “ยุทธศาสตร์” ที่ “ประชาธิปัตย์” นำเสนออย่างเต็มที่ ทำให้”ประชาธิปัตย์” เชื่อมั่นว่า จะได้ ส.ส.ในพื้นที่ จ.ปัตตานีอย่างน้อย ก็ 2 เขต ขึ้นไป

ในขณะที่”นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการเลือกตั้ง รวมทั้งเป็นผู้”รับผิดชอบ” ในการเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า เลือกตั้งครั้งนี้  เรามีความพร้อมทุกอย่าง และมีเวลาเตรียมตัว โดยเฉพาะในการ”คัดคน” เพื่อส่งลงสมัครครั้งนี้ เป็นผู้ที่มี”ความพร้อม” มี”คุณภาพ” ทั้งการการศึกษา ด้านการผ่านงาน”บริหาร” ท้องถิ่น บริหารการศึกษา เป็นอดีตผู้นำ”ท้องที่” ที่เป็นผู้ที่ประชาชนยอมรับ  และเป็นผู้รู้ปัญหา รู้ความต้องการของประชาชนเป็นอย่างดี เราไม่หนักใจ แม้แต่ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ผู้สมัคร ส.ส.ของ”ประชาธิปัตย์” จะต้อง”แข่งขัน” กับ อดีต ส.ส.ของพรรค ที่เป็นผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ  ก็ตาม

แต่ อย่างไรก็ตาม ในสนามการเลือกตั้ง ที่ จ.ปัตตานี “ประชาธิปัตย์” ต้อง “แข่งขัน”กับ ส.ส.ของพรรคประชาชาติ ในเขตเลือกตั้งที่ 4 ที่ “สมมุติ เบญจลักษณ์” เป็น ส.ส. และยังมีประชาชนให้การ”สนับสนุน” เพราะมี”บทบาท” ทั้งใน”พื้นที่” และใน”สภาผู้แทนฯ”

เขตเลือกตั้งที่ 3 ต้องสู่กับ “อนุมัติ ซูสารอ” ที่ ลาออกจากพรรคประชาชาติ ไป”สวมเสื้อ”พรรครวมไทยสร้างชาติ” ของ”ลูงตู่” และต้องสู้กับ” อับดุลบาซิม อาบู” ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งพรรคภูมิใจไทย ยังเชื่อมั่นว่า “อับดุลบาซิม” จะได้รับการเลือกจากประชาชนในพื้นที่กลับมาได้อีกครั้ง โดยมี”สิรภพ ดวงสอดศรี” ที่เป็น”สายตรง” ของ”เนวิน ชิดชอบ” รับผิดชอบพื้นที่ จ.ปัตตานี ของ”ภูมิใจไทย”

สำหรับพรรคประชาชาติ ซึ่งในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562  มี ส.ส. 2 เขต คือเขต 3 “อนุมัติ ซูสารอ” และเขต 4 “สมมุติ เบญจลักษณ์” และเกือบได้ ส.ส.ในเขต 2  ที่ ผู้สมัครคือ “อารีฟีน จะปากียา” ที่”พ่ายแพ้”ให้กับ”อับดุลบาซิม อาบู” จากพรรคภูมิใจไทยเพียง 400 คะแนน ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ว่า”ประชาชาติ” จะยังไม่มีการ”เปิดตัว” ผู้สมัครครบทุกเขต แต่ก็มีการ”สรรหา” ผู้สมัครไว้แล้ว เพียงรอวันเวลาในการเปิดตัวเท่านั้น

สำหรับ”ประชาชาติ” แม้จะเป็น”พรรคฝ่ายค้าน” ที่อาจจะไม่สามารถดึง”งบประมาณ” ลงในเขตเลือกตั้งของ ส.ส. แต่ ส.ส.ของ”ประชาชาติ” มีการ”เกาะติดพื้นที่” ดูแลประชาชน และมี”บทบาท” ในสภาผู้แทน รวมทั้ง”วันมูหะมัดนอร์ มะทา” หัวหน้าพรรค และ” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง “  ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ เลขาธิการพรรค มีการ”ลงพื้นที่” พบปะประชาชน ผู้นำศาสนา ผู้นำศาสนา ทั้ง”พุทธ” และ”มุสลิม”และดำเนิน”แนวทาง” ส่งเสริม”พหุวัฒนธรรม” รวมทั้งเป็นลักษณะของ”พรรคการเมืองท้องถิ่น”  และ”ชาตินิยม” ที่มีโอกาสในการได้ “ที่นั่ง” ใน จ.ปัตตานี  ไม่ต่ำกว่า 2 เขตเลือกตั้ง

แต่ สุดท้ายแล้ว เชื่อว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นไปได้สูงว่า การเลือกตั้งของ จ.ปัตตานี จะได้ ส.ส.เขต แบบ”กระจัดกระจาย” คือ พรรคการเมืองใหญ่ๆ จะมีการ”แบ่งปัน” ส.ส. ได้ไป แบบ”คนละเขตสองเขต” ในจำนวน 3-4 พรรคการเมืองส่วน”พรรคเฉพาะกิจ” อย่าง”รวมไทยสร้างชาติ” ที่มุ่งจะ”ขายลุงตู่” และนโยบาย” ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อไป” อาจจะต้อง”เหนื่อย” จากกระแส”ไม่เอาทหาร” และการ”ดอง” พรบ.อุ้มหาย ที่กลายเป็น”ปม” ในหัวใจของคน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” จะทำให้ผู้สมัครของ”รวมไทยสร้างชาติ” ต้อง”เข็นครกขึ้นเขา” ในการเลือกตั้งครั้งนี้

แม้ว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะมี”ค่ายทหาร” และมีกำลังพลมากกว่า 50,000 นาย  แต่การ”เข้าคูหา” เพื่อ”กาบัตร”เลือกตั้ง อาจจะไม่สามารถสั่งให้”ซ้ายหัน”ขวาหัน” ได้เหมือนใน อดีต ที่ผ่านมา  ซึ่งในการ เลือกตั้งครั้งนี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ได้มีคำสั่ง ที่เป็น”นโยบาย” ที่ชัดเจน ต่อกำลังพล ในการ วางตัวเป็นกลาง และ ไม่”ฝักใฝ่” กับ การเมือง

Relate topics