The Agenda South

ระทึกกลางถนน สืบภาค 9 ขับรถตามจับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ รายใหญ่ระดับอาเซียนชาวมาเลเซียและคนไทย ยึดไอซ์ 100 กิโลกรัม ยาเค 10 กิโลกรัม มูลค่านับร้อยล้านเตรียมเข้ามาเลย์

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจสวนภาค 9 นำโดยพ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.9 ขับรถสกัดจับรถต้องสงสัยขนยาเสพติด ขณะขึ้นสะพานข้ามสี่แยกคูหา ถนนเพชรเกษม (สายเอเชีย) อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา หลังสืบทราบว่ารถคันนี้ได้ขนส่งยาเสพติดจากประเทศลาว เพื่อส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย โดยในรถมีชาวมาเลเซียและคนไทยขับขี่มา 2 คน

จากการตรวจค้นพบไอซ์ 100 กิโลและยาเค 10 กิโลกรัมซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บยางอะไหล่ภายในรถยนต์Toyota Harrier สีดำ ทะเบียน 2กด 3526 กทม. ตรวจสอบบริเวณรอบรถยังพบว่า มีการติดสติ๊กเกอร์ของสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนคนขับชื่ออัศวิน หรือหมาน มะอาลา สัญชาติไทย และ MR. LEWIS RAAJ JOHN PETER (นายลูอิส ราจซ์ จอห์น ปีเตอร์) คนนั่งข้าง

จากการสอบสวน ทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่ารับจ้างลำเลียงยาเสพติดจากเมืองเวียงจันทร์ สปป.ลาวให้บุคคลในกลุ่มเครือข่ายในเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเชีย ใช้ช่องทางด่านพรมแดนด่านสะเดา ในการผ่านเข้า-ออก

โดยในกลุ่มเครือข่ายมี MRPro (นายโปร) และนายเตวิด ไม่ทราบชื่อ-สกุล ชาวมาเลเซีย เป็นคนติดต่อว่าจ้างได้ค่าจ้างในการขนยาครั้งละเกือบ 1 ล้านบาท ส่วนยาเสพติดทั้งหมดถ้าหลุดพ้นไปยังประเทศมาเลเซียจะมีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

สำหรับการจับกุมไอซ์และยาเคล๊อตใหญครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวน และติดตามกลุ่มค้ายาเสพติดข้ามชาติกลุ่มนี้ โดยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา พบว่านายลูอิส ราจช์ จอห์น ปีเตอร์ สัญชาติมาเลเชีย ซึ่งอยู่ในเครือข่ายดังกล่าว ได้ใช้รถยนต์ Toyota Harrier สีดำ ทะเบียน 2กด 3526 กทม. เดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านช่องทางด่าน ตม. อ.สะเดา จ.สงขลา และมุ่งหน้าสู่ สปป.ลาว ผ่านด่าน ตม.หนองคาย สะพานมิตรภาพไทยลาว 1

จากการตรวจสอบพบมีการเดินทางเข้า-ออก ประเทศมาเลเชีย-ไทยและ สปป.ลาว ในลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้งผิดปกติ และสืบจนรู้ว่าเข้าไปขนยาเสพติดจาก สปป.ลาว เพื่อนำกลับไปประเทศมาเลเชีย ผ่านประเทศไทย จึงได้เฝ้าติดตาม กระทั่งเมื่อวันที่ 17 ส.ค. พบว่าได้เดินทางกลับเข้าสู่ประเทศไทย ทางด่าน ตม.หนองคาย มุ่งหน้าเข้ามายัง จ.สงขลา จึงวางแผนติดตามจับกุมและสกัดจับได้ในพื้นที่ อ.รัตภูมิ ขณะขึ้นสะพานข้ามแยกคูหา และเป็นการจับกุมไอซ์และยาเคล็อตอีกครั้งหนึ่งในรอบปีนี้และเป็นเครือข่ายข้ามชาติระดับอาเซียน