เก็บซับ “บทเรียน” จากอุทกภัยใหญ่ไปใช้ “ดับไฟใต้”
ทัศนะ : ไชยยงค์ มณีพิลึก
ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจากอุทกภัย ซึ่งมีผู้ใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบแก้ปัญหาให้ประชาชนกล่าวว่า ถือเป็นอุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี ประเด็นนี้ต้องพิจารณาว่าเป็นการพูดที่ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง หรือพูดเพื่อปัดความรับผิดชอบต่อกันแน่
จึงขอเว้นเขียนถึงสถานการณ์ไฟใต้ที่ร้อนแรงไปก่อน เพราะในห้วงแห่งความโศกเศร้าและสูญเสีย ขบวนการบีอาร์เอ็นคงไม่ก่อเหตุซ้ำเติมแน่ แต่หลังปีใหม่ไปแล้วการก่อเหตุอาจจะเกิดขึ้นอีก โดยเป้าหมายยังอยู่ที่ทหาร ตำรวจและกองกำลังท้องถิ่น ตามแต่ว่าฝ่ายไหนจะประมาทหรือเปิดช่องว่างให้บีอาร์เอ็นฉกฉวยโอกาสได้
สิ่งที่นำมาเขียนถึงขอเป็นสถานการณ์เย็นๆ ไปก่อน กล่าวคือ ไฟใต้กำลังจะก้าวสู่ปีที่ 20 ในช่วงต้นปี 2567 ซึ่งตลอดเกือบ 20 ปีความสูญเสียเกิดกับภาคราชการและประชาชน โดยเฉพาะมีการใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท แต่ว่าเวลานี้กลับยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แม้แต่น้อย
ในบรรดาคนชายแดนใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วม ปรากฏว่า ชาว จ.นราธิวาสหนักหน่วงที่สุด และภัยธรรมชาติครั้งนี้ได้ “ประจาน” การทำทำหน้าที่ของหน่วยงานพิทักษ์และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร้ประสิทธิภาพแบบสุดๆ เหมือนกัน
เนื่องเพราะน้ำป่าที่หลากจากพื้นที่สูงลงสู่พื้นราบ นอกจากนำพาดินโคลนลงมาด้วยแล้วยังมี “ท่อนไม้” ที่อยู่ในสภาพถูกตัดโค่นมาก่อนไหลตามสายน้ำมาด้วย โดยเฉพาะบริเวณ “เทือกเขาเมาะแต” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขต “อุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป” ในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งมีทั้งภาพและข่าวยืนยันอย่างเป็นที่ประจักษ์
เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการมีอยู่จริงของ “ขบวนการมอดไม้” ในชายแดนใต้ ซึ่งมักจะชุกชุมตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย นอกจากในพื้นที่ จ.นราธิวาสและ จ.ยะลาแล้ว ในส่วนของ จ.สงขลาก็ไม่น้อยหน้า โดยเฉพาะใน อ.สะบ้าย้อยที่เป็นรอยต่อกับ อ.กาบังของ จ.ยะลา
จนกลายเป็นว่า “ไฟใต้ระลอกใหม่” ที่เกิดขึ้นนับเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2547 กลับกลายเป็นสถานการณ์ที่เอื้อประโยชน์ให้บรรดา “ผู้มีอิทธิพลกลุ่มต่างๆ” ไม่เว้นแม้กระทั่งพวกที่สวม “เครื่องแบบข้าราชการ” และ “เสื้อพรรคการเมือง” ได้ทำมาหากินในสิ่งที่ผิดกฎหมายกันคล่องขึ้นอย่างมากมาย
ความจริงแล้วการลอบตัดไม้ทำลายป่า หรือทำลายทัพยากรธรรมชาติอื่นๆ อาทิ ลอบขุดดิน ขุดทราย รวมถึงการค้ายาเสพติด น้ำมันเถื่อน บุหรี่เถื่อน หรืออะไรที่เถื่อนๆ อีกมากมาย ล้วนเป็นการ “บ่อนทำลายชาติ” ทั้งนั้น แต่มักถูกเจ้าหน้าที่รัฐแอบอ้างยกเอาสถานการณ์ไฟใต้มาเป็นเงื่อนไขกลบเกลื่อน
ตัวอย่างที่เห็นบ่อยๆ ก็เช่น อ้างว่าเข้าไปจัดการหรือแก้ปัญหาไม่ได้เพราะเสี่ยงต่อชีวิต หรือกลัวตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ โดยกลับยินยอมปล่อยให้กลุ่มผู้มีอิทธิพลที่อยู่ในความคุ้มครองของขบวนการแบ่งแยกดินแดนกระทำการใดๆ ได้ตามใจชอบ
ที่น่าเศร้าใจคือ นับแต่เกิดไฟใต้ระลอกใหม่ปี 2547 ต่อเนื่องมาจนจะครบ 20 ปีในอีกไม่กี่วัน ในชายแดนใต้มี “กองกำลังเสริม” ไม่ว่าจะจากฝ่ายทหารหรือท้องถิ่นกว่า 70,000 คน ซึ่งถูกนำเข้ามาเสริมกองกำลังตำรวจประจำการในพื้นที่ที่อยู่แล้วไม่ต่ำกว่า 30,000 คน กลับไม่ช่วยให้สถานการณ์บ่อนทำลายชาติต่างๆ ดีขึ้นเลย
ทำไมกองกำลังภาครัฐที่มีมากมายกว่า 100,000 คนในชายแดนใต้ กลับป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าไม่ได้แม้แต่กระผีกริ้น โดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาเมาะแต ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ประจานชัดแจ้งจากกรณีเกิดอุทกภัยหนักในห้วงเวลานี้
ความจริงแล้วไม่เฉพาะแต่ป่าไม้บริเวณเทือกเขาเมาะแตเท่านั้น ผืนป่าในพื้นที่อื่นๆ ของชายแดนใต้ โดยเฉพาะที่สำคัญยิ่งคือ “ป่าฮาลา-บาลา” ที่กินพื้นที่ 2 จังหวัดคือ ยะลากับนราธิวาส ถือได้ว่าเป็นประจักพยานที่ชัดเจนว่าได้ถูกขบวนการมอดไม้รุกล้ำทำลายไปแล้วจำนวนมาก
กองกำลังของเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพิทักษ์รักษาป่าต่างๆ มากมายที่รับผิดชอบโดยตรง รวมถึงกองกำลังทหารสังกัด “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ที่เข้าไปช่วยสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง ทำไมกำลังพลที่มีมากมายเหล่านี้กลับป้องกันการบุกรุกทำลายป่าในชายแดนใต้ไม่ได้เลย
ดังนั้นถึงเวลาหรือยังที่จะต้อง “ทบทวน” การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่สมควรถูกตำหนิมากสุดคือ “กรมการปกครอง” เพราะนายอำเภอเป็นผู้บังคับบัญชากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึง ชรบ. ซึ่งทุกคนต่างมี “เงินเดือน” และ “เบี้ยเลี้ยง” ที่สำคัญมีงบให้จัดประชุมกันทุกเดือน แต่ที่ผ่านมากลับใช้ประโยชน์จากบรรดาผู้นำท้องที่ไปช่วยแก้ปัญหาไ่ม่ได้เลย
นี่กระมังที่โบราณกล่าวว่า “เลี้ยงไปก็เปลืองข้าวสุก”
สำหรับขบวนการมอดไม้ที่ชายแดนใต้จัดว่าใหญ่เอาการทีเดียว โดยมีเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลทำหน้าที่เกี่ยวเนื่องกันไปตั้งแต่ “กลุ่มทุนต้นน้ำ” คือพวกลักลอบตัด ชักลาก ก่อนส่งให้แก่ “กลุ่มทุนกลางน้ำ” รับซื้อไปแปรรูป แล้วสุดท้ายถูกส่งต่อไปสู่ “กลุ่มทุนปลายน้ำ” คือตัวแทนจำหน่ายวัสดุไม้แปรรูป วงกบ ประตู หน้าต่าง เป็นต้น
ถ้าเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนทำงานอย่างบูรณาการครบวงจรกันแล้ว ปัญหาการลอบตัดไม้ทำลายป่าก็จะเบางบางลงได้แน่นอน หรือกระทั่งขบวนการลักลอบตัดไม้จากฝั่งไทย ส่งให้โรงเลื่อยในมาเลเซียแปรรูป ก่อนนำกลับเข้ามาขายในไทย หรือที่เรียกว่า “ไม้สวมโสร่ง” ขบวนการแบบนี้ก็จะหมดไปได้ในที่สุด
ที่เขียนมายืดยาวเพียงต้องการชี้ว่า ถึงเวลาแล้วที่ผู้มีอำนาจต้องนำ “บทเรียน” จากอุทกภัยใหญ่ที่ชายแดนใต้ครั้งนี้ไปสู่การ “ปรับเปลี่ยนนโนบาย” ดับไฟใต้อย่างบูรณาการแท้จริงเสียที ซึ่งหากทำได้จะช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชนได้มากมายเช่นกัน
Relate topics
- เตือนเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว จ.สงขลา เฝ้าระวังหนอนหัวดำมะพร้าวระบาด**เตือนเกษตรกรชาวสวน
- ชาวบ้านใน จ.สงขลา ยื่นหนังสือร้องทุกข์ เดือนร้อนจากกลิ่นเหม็นโรงงานคัดแยกขยะ**ตัวแทนชาวบ้านจาก 2
- ผลกระทบฤดูฝน! เจ้าของร้านกาแฟริมชายหาดชลาทัศน์ตัดพ้อยอดตกลูกค้าหาย**เจ้าของร้านกาแฟริม
- ตร.ตกใจเจองูเหลือมใกล้บ้านพัก สภ.นาทวี แจ้งทีมอสรพิษวิทยาภาคใต้เข้าช่วยจับด่วน**ตร.ตกใจเจองูเหลือม
- ฝนตกหนักส่งผลกระทบพ่อค้าขายปาท่องโก๋เมืองสงขลา ทำรายได้หาย 30 เปอร์เซ็นต์**ฝนตกฤดูมรสุมตะวันอ
- ระเบิดแคมป์ก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม จ.สงขลา คนงานและเด็กเจ็บ 3 ราย**เกิดเหตุระเบิดขึ้น
- สุดท้ายต้องยอม! จนท.ปิดล้อมจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดไม่ยอมง่ายต้องเจรจาเกือบชั่วโมงก่อนมอบตัวโดยดี**เจ้าหน้าที่ชุดช้าง
- รพ.สงขลานครินทร์ประสบความสำเร็จรักษาโรคอ้วนทุพพลภาพด้วยนวัตกรรมการผ่าตัดกระเพาะอาหารและลำไส้**ศูนย์ความเป็นเลิศด
- “พิพัฒน์“ กำชับ จนท.ความปลอดภัยร่วมสร้างเกราะป้องกันในสถานประกอบการ มุ่งเป้าลดอันตรายร้ายแรง 1:1000 คน**วันที่ 12 พฤศจิกาย
- สำนวน “ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง” กับวลีเด็ด “โจรกระจอก”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “พิพัฒน์” ระดมช่างไฟฟ้าซ่อมในอาคารกว่า 100 หลัง สร้างเชียงรายโมเดลช่วยฟื้นฟูหลังน้ำลด**“พิพัฒน์” จ้างงานเ
- รองปลัดกระทรวงแรงงานจัดโปรปลอดดอกเบี้ย อัดฉีดเงินกองทุนให้ สปก. / SME กู้ Upskill แรงงาน 30 ล้านบาท**นายเดชา พฤกษ์พัฒนร
- รมว.แรงงานเผยเริ่ม 1 พ.ย.นี้ ประกันสังคมลงทุนหมื่นล้าน จับมือ ธอส. ปล่อยกู้ให้ผู้ประกันตน**ผู้ใช้แรงงานเฮ! "พ
- ผวา! พบจงอางยักษ์ซุกในกอไผ่ใกล้บ้านแจ้งทีมอสรพิศเข้าจับนำไปปล่อยป่า**ทีมอสรพิษวิทยาภาคใ
- “นิพนธ์” ซัดยุติธรรมไทยล้มเหลว ปล่อยคดีตากใบขาดอายุความ ชี้ไม่สร้างความเชื่อมั่น อย่าหวังแก้ไฟใต้วันนี้ (24 ต.ค.) นาย
- เปิดอาคารทันตกรรมครุอำโพธิ์-คงสุวรรณ ร่วมกิจกรรมรณรงค์ “ชาวสิงหนครฟันดี สดุดีสมเด็จย่า"**นายอภิชาติ สาราบรร
- ฤๅ “คดีตากใบ” ไม่ต่างจากเอาเบนซินไปราดดับไฟใต้?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “พิพัฒน์” หนุนแรงงานอิสระพร้อมมอบเครื่องมือทำกินเพิ่มรายได้ครัวเรือน**“พิพัฒน์” หนุนแรงง
- กำลังการผลิตคุณภาพใหม่ช่วยพัฒนาประเทศจีน สร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่โลก**โดย.. อู๋ ตงเหมย
- รมว.แรงงานประกาศจ้างงานเร่งด่วน 400 คน เคลียร์ดินโคลนพื้นที่น้ำท่วม จ.เชียงราย**“พิพัฒน์ รัชกิจประ
- “พิพัฒน์” สั่งตั้งจุดบริการรับซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า-รถมอเตอร์ไซค์ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม**“พิพัฒน์ รัชกิจประ
- ห้วงเวลา “เปลี่ยนแปลงใหญ่” บนแผ่นดินไฟใต้?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- รมว.ยุติธรรมสั่งการกรมราชทัณฑ์ เร่งฟื้นฟูช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จ.เชียงใหม่**พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
- “ทวี สอดส่อง” ประชุมติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งหน่วยบริการในระบบต้องโทษ**พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
- กลุ่มสตรีผู้สูงอายุฯ ลงเรียนรู้การทำผีเสื้อผ้าใยบัวและบอนสี สร้างรายได้ให้ครอบครัว**กลุ่มสตรีผู้สูงอาย
- ลงนามรับมอบสิทธิการครอบครองที่ดินให้แก่ราษฏร์หลัง DSI ช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาท**DSI ไกล่เกลี่ยข้อพ
- จับตา “ตุลาเดือด” โหมไฟใต้โชนเปลวทัศนะ: **ไชยยงค์ มณี
- “พิพัฒน์” ยอมรับค่าจ้าง 400 บาทเริ่มไม่ทัน 1 ต.ค.นี้ ขอเห็นใจแรงงานขึ้นค่าแรงตั้งแต่ปี 55**“พิพัฒน์” ยอมรับค่
- “ทวี สอดส่อง” เผยยังมีลูกหนี้ กยศ.เกือบแสน ระบุต้องเร่งการปรับโครงสร้างหนี้**พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
- รมว.ยุติธรรมหนุนจัดแข่งขันชกมวยไทย Real Prison Fight ผู้ต้องราชทัณฑ์กับนักมวยต่างชาติ**พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
- กรมการจัดหางาน ลุยตรวจสอบแรงงานข้ามชาติกว่า 2.5 แสนราย ดำเนินคดีกว่า 1.8 พันคน**กรมการจัดหางาน แจง
- "สรรเพชญ" ชี้แก้รัฐธรรมนูญไม่ตอบโจทย์ปัญหาประชาชน หวั่นเอื้อประโยชน์พวกพ้องนักการเมือง**"สรรเพชญ บุญญามณี"
- กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดทดสอบครูมวยในแคนาดา ยกระดับมาตรฐานค่ายมวยไทยในต่างประเทศ**อธิบดีกรมพัฒนาฝีมื
- ชาวคลองแงะเดือดร้อนทำถนนกลางเมือง หวั่นต้องปิดร้านขายสินค้าจนเจ๊ง**ชาวบ้านในพื้นที่คล
- กองทัพบกร่วมกับสวนนงนุชพัทยา เนรมิตการจัดสวนภายในวัด-มัสยิดชายแดนภาคใต้**กองทัพบกร่วมกับสวน
- คึกคัก! บุญแรกรับตายาย ทั้งเจ้าเงาะป่าและเปรตรอรับที่วัดโคกศักดิ์**วัดโคกศักดิ์ ต.พัง