เล่าเรื่องประชาธิปไตยคนจน-ธนาคารแพะหวะแก้จน (1)
ทัศนะ โดย.. รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
กลิ่นขี้เลื่อยไม้ตัดหมาดจากโรงเรือนเสาสูงหลังคาจั่วโชยมาแตะจมูกแต่ไกล ร่องรอยการแปรรูปยังปรากฏให้เห็นชัดเจน สายฝนโปรยมาเล็กน้อย ข้าพเจ้าลงจากรถมหาวิทยาลัย ตรงดิ่งไปยังใต้ถุนโล่งของโรงเรือน พื้นดินยังเฉอะแฉะจากสายฝนสาดซัดในคืนล่วงผ่าน ก่อนการมาเยือนของเช้านี้
เสียงแพะ...แบะ แบะๆ ดังทั่วบริเวณแข่งกับเสียงพูดคุยสนทนาใบหน้าเปื้อนยิ้มของสมาชิกธนาคารแพะเนื้อแบบเลี้ยงหวะ ตำบลคลองใหญ่ อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง
“มุสลิมะฮ์” ในชุดอาบายะห์หลากสีคลุมฮิญาบ ปกปิดมิดชิด กระจายเป็นกลุ่มๆ ทำหน้าที่ทั่วอาณาบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิดชัดเจนมั่นคง บ้างเตรียมการอาหาร อาหารแพะหอมเครื่องเทศเย้ายวนชวนหิว บ้างจัดตกแต่งลานเสวนา นิทรรศการการดำเนินงานของกลุ่ม ขณะที่มุสลีมีนหลายคนวุ่นอยู่กับการต้อนแพะเหยียบย่างบันไดไม้ขึ้นคอก ก่อนการเฉลิมฉลองและการส่งมอบโรงเรือนและอุปกรณ์พื้นฐานเริ่มต้นการเลี้ยงแพะเนื้อแบบเลี้ยงหวะ
คำว่า “หวะ” มาจากคำในภาษาถิ่นใต้ หมายถึงการผ่าออก การใช้มีดหรือของมีคมกรีดเพื่อให้สิ่งที่อยู่ข้างในออกมา ในที่รับรู้กันโดยทั่วไปมักใช้กับกลุ่มคนรับจ้างทำงานในสวน/ นาของผู้อื่น/ เจ้าของ แล้วแบ่งสันปันส่วนหรือผลผลิตที่ได้ให้แก่เจ้าของแทนค่าเช่าตามที่ตกลงกันไว้ เช่น ตัดยางหวะ แบ่งแบบ 6:4 ทำนาหวะ 5:5 เป็นต้น
สมาชิกธนาคารแพะเนื้อแบบเลี้ยงหวะ ในตอนเริ่มต้นคือ คนกรีดจ้าง หรือคนตัดยางหวะ ที่ยากจน ไร้ตัวตนในระบบห่วงโซ่การผลิตและการทำสวนยาง เป็นแรงงานนอกระบบที่แทบไร้สวัสดิการ เข้าไม่ถึงการช่วยเหลือและการเยียวยาใดๆ ไม่ว่าในยามปกติ หรือวิกฤตราคาผลผลิตตกต่ำเพียงใดก็ตาม
แม้มีนโยบายช่วยเหลือเกษตรชาวสวนยาง เช่น การประกันรายได้/ราคา แต่คนกรีดยางที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนคนกรีดยาง จะไม่สามารถเข้าถึงการการช่วยเหลือ เยียวยาได้ หากมีอนิสงส์เกิดขึ้นได้บ้างก็มาจากการสงเคราะห์จากเจ้าของสวนยางเท่านั้น
ปัจจุบันมีคนกรีดยางหวะ ที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เพียง 272,733 ราย เท่านั้น สาเหตุมาจากทั้งการการปล่อยปละละเลย การไม่ตระหนักในสิทธิ์ของตน รวมการถูกกีดกัน/ปิดกั้นการเข้าถึงสิทธิ์จากเจ้าของสวน เป็นต้น
คนตัดยางหวะ ในแง่มุมทางภาษาและตำแหน่งแห่งที่จึงมีนัยของดูถูก ดูแคลน ข้นแค้น ขาดแคลนเรียกได้ว่าเป็นคนชายขอบของชุมชน/หมู่บ้านอย่างแท้จริง ข้าพเจ้ารับรู้-เข้าใจในเรื่องนี้ดี
พ่อ-แม่ ข้าพเจ้าเป็นคนตัดยางหวะมาก่อน
การข้ามผ่านการตัดยางหวะ จึงไม่ต่างจากการปีนป่าย ตะเกียกตะกายในหลุมลึกของความขาดแคลนที่ไร้ความหวัง ลางเลือน ไม่อาจเป็นไปได้
การเกิดขึ้นของเครือข่ายคนตัดยางหวะ กลายเป็นเรื่องตลกโปกฮาของชุมชน หมู่บ้าน ธนาคารแพะเนื้อแบบเลี้ยงหวะ ตลกยิ่งกว่า?
หลุมบ่อได้รับการเติมเต็มเริ่มต้นจากการที่มหาวิทยาลัยทักษิณ และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้ริเริ่มโครงการเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับผู้เปราะบางในพื้นที่ภาคใต้ ผ่านโครงการธนาคารแพะเนื้อแบบเลี้ยงหวะ” หรือ “กลุ่มแพะเนื้อแบบเลี้ยงหวะ” ขึ้น เพื่อพัฒนาอาชีพและการพึ่งตนเองของชุมชน และครัวเรือนเป้าหมาย ด้วยกระบวนการระดมทุนบนฐานคิด การ “หวะ” การใช้ “หลักศาสนา-ศรัทธา” และการใช้กลุ่ม[ธนาคาร] เป็นกลไกการขับเคลื่อนเชิงระบบ
ด้วยนวัตกรรมเชิงการพัฒนาที่อุดช่องโหว่ความเสี่ยงการเลี้ยงแพะหวะแต่ดั้งเดิม ที่ผู้เลี้ยงแบกรับความเสี่ยงไว้เพียงลำพังมาสู่การจัดการแบบกลุ่มและการจัดการเชิงระบบ ที่เชื่อมโยงกันแบบ “มือบน-มือล่างและการเกื้อกูล” ด้วยการระดมทุน การจัดสรร แบ่งปันไปผลประโยชน์ตามศักยภาพ ทรัพยากรที่แต่ละกลุ่มมี/ ใช้ไป ทำให้มีผู้เข้าร่วมโครงการมากถึง 120 ครัวเรือน กลุ่มคนจน ทุนน้อย ลงหุ้น ระดมทุน ใช้แรงงานแลกเปลี่ยน สร้างโอกาสขยายฐานการเติบโตของกลุ่ม/ ธนาคารในอนาคต เช่น การจัดสรรกำไร/ผลประโยชน์ให้ผู้ถือหุ้น ผู้เลี้ยง และกองกลางสำหรับขยายผลการประกอบการและการบริหารจัดการ ในสัดส่วน 40 : 50 : 10 เป็นต้น ทำให้เพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิกอย่างต่อเนื่อง
มากกว่ารายได้คือ การสำแดงตัวตน คุณค่า การยอมรับจากภายในและนอกชุมชน ธนาคารแพะเนื้อแบบเลี้ยงหวะ กลายเป็นพื้นที่/ ศูนย์การเรียนรู้ มีปัญญา-ชุดวิชาแพะ ขยายผลสู่พื้นที่อื่น ทั้งในจังหวัดพัทลุง และจังหวัดชายแดนภาคใต้
**จากชายขอบเคลื่อนสู่ศูนย์กลางของชุมชน จากไร้ตัวตนกลายเป็นอัตลักษณ์ใหม่ ในนาม “นวัตกร” ผู้นำการเปลี่ยนแปลง **
หลุมบ่อได้รับการถมตื้น มีบทเรียนมากมายให้เรียนรู้
นี่คือรูปธรรมนวัตกรรมขยายผล และการเริ่มต้นขยายผลนวัตกรรมจากมือล่าง จะสร้างปรากฏการณ์ สำนึกใหม่ ที่เป็นรากฐานอันแข็งแกร่งของการสร้างประชาธิปไตยชุมชน จากความจนที่กางกั้น และการข้ามพ้น ด้วยความความหวัง ความฝัน และพลังคนจน
The Another Community is Possible ชุมชนใหม่ที่เป็นไปได้
เสียงอาซาน ละหมาด-ซุฮฺริ แว่วมาไกลๆ ข้าพเจ้ากล่าวคำลา-สลาม
**อัลฮัมดุลิลลาฮฺ- ฟีอะมานิลลาฮฺ ให้เดินทางปลอดภัยให้สวัสดิภาพ บางใครให้ดุอาอฺ **
Relate topics
- สำนวน “ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง” กับวลีเด็ด “โจรกระจอก”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ฤๅ “คดีตากใบ” ไม่ต่างจากเอาเบนซินไปราดดับไฟใต้?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- กำลังการผลิตคุณภาพใหม่ช่วยพัฒนาประเทศจีน สร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่โลก**โดย.. อู๋ ตงเหมย
- ห้วงเวลา “เปลี่ยนแปลงใหญ่” บนแผ่นดินไฟใต้?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จับตา “ตุลาเดือด” โหมไฟใต้โชนเปลวทัศนะ: **ไชยยงค์ มณี
- แนะ 2 เรื่องให้ “รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง” ทำเพื่อยุติการค้าสงครามชายแดนใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “อุ๊งอิ๊ง” กับภารกิจลบข้อหาพ่อจุดไฟใต้ระลอกใหม่**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- 3 เรื่อง 2 แนวทางที่รัฐบาลต้องทำเพื่อดับไฟใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- คาร์บอมบ์แฟลตตำรวจฉุดความเชื่อมั่น “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” สู่ก้นเหวทัศนะ : **ไชยยงค์ มณ
- รัฐบาลและกองทัพควรนำกระเช้าไปกราบขอบคุณผู้นำบีอาร์เอ็น?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จับตา “กองทัพ” ขอเพิ่มงบไล่ให้ทันพัฒนาการแบ่งแยกดินแดน**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “ครม.ใหม่” ไม่ยึดโยง “มาตรการดับไฟใต้”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จากลูกแม่ค้าน้ำผึ้งแว่นสู่คหบดีพันล้าน ‘ผู้ใจบุญแห่งภาคใต้’ มุ่งบริจาคเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ด้วยการยึดมั่น “ยิ่งให้ยิ่งได้”โดย.. **ไชยยงค์ มณีร
- ทำไมไฟใต้ยิ่งโชนเปลวตลอดช่วง 7 เดือนของ “รัฐบาลตระบัดสัตย์”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- สิ่งที่แอบแฝงกับการฝึก “คอบร้าโกลด์” ไทย-สหรัฐฯ คือการตั้ง ‘ฐานทัพ’ ในไทยใช่หรือไม่?!**ทัศนะ โดย.. เมือง
- หยุด “รอมฎอนเลือด” ทำลายการบ่มเพาะ “นักรบหน้าขาว”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จาก “รอมฎอนเลือด” ถึง “สงกรานต์-เข้าพรรษาเดือด”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- หยุดพิธีศพบิดเบือนไม่ได้ อย่าหวังไฟใต้จะมอดดับ**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ชำแหละ “แผน JCPP” หยุดฝันบีอาร์เอ็นลงนามด้วย**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ และเขียนบทใหม่ที่สวยงามสำหรับจีน-ไทย**โดย.. อู๋ ตงเหมย ก
- “ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง” ท่ามกลางความระอุอ้าวบนแผ่นดินไฟใต้ทัศนะ: **ไชยยงค์ มณี
- มองทะลุฉากหลัง “กระบวนการเจรจา” กับบีอาร์เอ็น**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ปัญหาของ “โคบาลชายแดนใต้” อยู่ที่เกษตรกร ‘ระบบราชการ’ หรือบริษัทผู้เป็นเจ้าของวัว**โดย.. ไชยยงค์ มณีพ
- ทำไม “รัฐบาลนิดหนึ่ง” ยังงมโข่งอยู่กับวิกฤตไฟใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “ปีมังกรทอง” หรือ “ปีมังกรไฟ” ที่ชายแดนใต้?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- เก็บซับ “บทเรียน” จากอุทกภัยใหญ่ไปใช้ “ดับไฟใต้”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ต้อนรับก้าวใหม่ของการร่วมสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”โดย.. **อู๋ ตงเหมย ก
- อย่าทน! กลไกรัฐพิการ เพื่อนบ้านซ่อนดาบในรอยยิ้ม**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ล้าง “กลุ่มนายพลผลประโยชน์” จากคณะพูดคุยสันติสุขพลเรือน?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- เล่าเรื่องประชาธิปไตยคนจน-ธนาคารแพะหวะแก้จน (จบ)**ทัศนะ โดย.. รองศาส
- งานในอนาคตกับการพัฒนาบุคลากรดิจิทัล**ทัศนะ โดย.. ผศ.ดร.
- เล่าเรื่องประชาธิปไตยคนจน-ธนาคารแพะหวะแก้จน (2)ทัศนะ โดย.. **รองศาส
- ข้อท้าทายของปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย : ภารกิจและบทบาทของกระทรวงยุติธรรมโดย.. **พันตำรวจเอก
- พัฒนาการธุรกรรมกับช่องทางการเงินดิจิทัลจากประเทศอินโดนีเซียสู่ประเทศไทย**ทัศนะ โดย.. ผศ.ดร.
- “รัฐบาลนิดหนึ่ง” เป็นร่างทรง “ร้าบานบิ๊กตู่” นำไฟใต้สู่ยุคมืด**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- อย่าฝันไฟใต้จะดับเพราะรัฐบาลพลเรือนใต้ปีก “ระบอบทักษิณ” ใต้บงการ “กองทัพ”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ