เล่าเรื่องประชาธิปไตยคนจน-ธนาคารแพะหวะแก้จน (จบ)
ทัศนะ โดย.. รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
ในทุกสังคมล้วนมีกฎ กติกา มารยาทและการอยู่ร่วมสังคมนั้น “ชั้นชนใดเขียนกฎหมายก็ต้องเอื้อเพื่อชนนั้น” แน่นอนคงยากถึงแทบเป็นไปไม่ได้ กับการที่คนจนจะลุกขึ้นมาเขียนกฎหมาย จึงต้องกลายเป็นเบี้ยงล่างมานานแสนนาน
คนจน และการกลายเป็นคนจน สัมพันธ์กับการแช่แข็ง วาทกรรรม และการลดทอนปัญหาที่สลับซับซ้อนอันเนื่องมาจากโครงสร้าง ความไม่เป็นธรรม ความเหลื่อมล้ำ และการค้ำจุนความอยุติธรรม ไว้เพียงศักยภาพของปัจเจกบุคคลเท่านั้น
โฆษณา “จน เครียด กินเหล้า” คือวาทกรรม ตลกร้าย ที่สร้างความรู้สึก การรับรู้ที่ผิดพลาดแก่สังคม ด้วยการผลักภาระความจน คนจน ให้เหลือเพียงความสามารถ/ ไม่สามารถของปัจเจกบุคล อันเนื่องมาจากการตกอยู่ในวัฏจักร-วัฒนธรรมความจน แบบ “โง่ จน เจ็บ”
[มายาคติมากมายในชีวิตประจำวัน ที่มีส่วนในการสร้าง ตอก ตรึง ชุดการรับรู้ ทั้งโดยรู้ตัว ไม่รู้ตัว และการสมาทานผ่านระบบ กลไก โครงสร้าง การศึกษา ความรู้ ฯลฯ ครั้งหนึ่งข้าพเจ้ายังรู้สึกตลกขบขันกับโฆษณาผู้ใหญ่ลีกับโครงการผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่ท่อนซุงขนาดใหญ่ ที่ชาวชุมชน มะรุมมะตุ้มไปมา จากเรือ ชุดรับแขก เขียง กระทั่งกลายมาเป็นไม้จิ้มฟัน ก่อนปิดท้ายด้วยMotto ว่า “ถ้าไร้ปัญญา ทุนที่ได้มาก็ไม่เหลือ เร่งสร้างทุนทางปัญญา...”]
ศาสตราจารย์อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ความจน ไม่ใช่เรื่องของกรรมเก่า ไม่ใช่เป็นเพราะว่าคนจนไม่ขยัน แต่มีข้อมูลมากมายที่ทำให้รู้กันอย่างดีว่า โครงสร้างของสังคมมีส่วนกำหนดปัญหาความยากจน “คนในสังคมรู้ แต่ไม่รู้สึก”
ทั้งเศร้า ทั้งหดหู่
“ธนาคารแพะเนื้อแบบเลี้ยงหวะ” คือ ความหวัง การลุกขึ้นมาปฏิบัติการสร้างธนาคารแพะ ด้วยฐานคิดของการแบ่งปัน และการสร้างกระดุมเชื่อมความร่วมมือภายใน ด้วยข้อตกลงที่กำหนดขึ้นจากฐานการมีส่วนร่วม “ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผลประโยชน์” ที่เรียกว่า “ธรรมนูญชุมชน” จึงเป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนที่ข้ามพ้นวาทกรรมความจน ด้วยปัญญา วิชาที่สั่งสม เติบโต งอกงามขึ้นจากสถานการณ์ที่กางขั้น ขึงตรึง-ซึ่งหน้า
มากไปกว่านั้นคือการสร้างความเป็นพลเมืองชุมชน/ ท้องถิ่น ที่พร้อมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
และการสร้าง “ประชาธิปไตยกินได้” จากการริเริ่มกิจกรรม โครงการจากจุดที่ยั่งยืน ทั้งยังยกระดับพัฒนาเป็นพื้นที่ต้นแบบ เป็นโมเดลแก้จน เป็นวิชาแพะหวะแก้จน ที่พร้อมขยายผลในแนวราบสู่พื้นที่/ กลุ่มเป้าเหมายอื่นๆ ที่มีบริบทเชิงพื้นที่ วิถี วัฒนธรรมชุมชน ศาสนา และชาติพันธุ์ เหมือนและ ใกล้ ไกล ไม่สิ้นสุด
ที่สำคัญอีกขั้นของการพัฒนา คือ การทำให้เกิดนโยบาย-แผนพัฒนาจังหวัด จากการขานรับความสำเร็จของธนาคารฯ การเคลื่อนเปลี่ยนโครงสร้างส่วนบนให้เข้าสู่การเป็นประชาธิปไตย การให้คุณค่า-มีจิตวิญญาณประชาธิปไตย และทำให้ ผู้คน ชุมชน ปรากฎตัวขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของ “การพัฒนาที่ถูกนับ” ทำให้เห็นหัวคนจน ไม่เฉพาะวันเข้าคูหา กาคะแนนเสียง-เลือกตั้ง เท่านั้น
ประชาธิปไตยไม่ใช่เดินเข้าคูหา กาบัตรเลือกตั้ง แต่คือวิถี วัฒนธรรม ที่มีพื้นที่รูปธรรมเชิงคุณภาพรองรับ ขยับขยายต่อยอดกิจกรรมในเชิงลึกและกว้างผ่านการสร้าง “เครือข่ายใหม่” ในการจัดการตนเองจากข้างล่าง อย่างยั่งยืน ด้วยโมเดลและนวัตกรรมแก้จน ที่คิดค้นมากับมือ
มือเท้า-ซ้ายขวา ที่ห่วงหา เอื้ออาทร เข้าใจในความเป็นมนุษย์ ผู้พานพบกับความทุกข์ทนมาทั้งชีวิต เท่านั้นที่จะรังสรรค์นวัตกรรม ลบล้าง สร้างใหม่วาทกรรม มายาคติข้ามพ้น “ความจน”
.............
เพลงนกกรุงหัวจุก เสียงร้องควั่น ภูคา เปิดดังลั่นกลบเสียงบรรยากาศครึกครื้นวงน้ำชายามเช้า ย่านปากพะยูน มอเตอร์ไซต์ด้านหน้าเรียงราย กรงนกกรุงหัวจุก หลากแบบกรง แขวนง่ายๆ เสียงจ่อกกวิก กวิก กวิก ๆๆๆ ประชันบทเพลง สายลมเบาๆ จากทะเลสาบพัดผ่าน ใคร ? ขยับกะปิเยาะห์เข้าที่ ไม่รีรอเปิดเรื่องเล่าใหม่ในวงสนทนา
Relate topics
- สำนวน “ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง” กับวลีเด็ด “โจรกระจอก”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ฤๅ “คดีตากใบ” ไม่ต่างจากเอาเบนซินไปราดดับไฟใต้?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- กำลังการผลิตคุณภาพใหม่ช่วยพัฒนาประเทศจีน สร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่โลก**โดย.. อู๋ ตงเหมย
- ห้วงเวลา “เปลี่ยนแปลงใหญ่” บนแผ่นดินไฟใต้?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จับตา “ตุลาเดือด” โหมไฟใต้โชนเปลวทัศนะ: **ไชยยงค์ มณี
- แนะ 2 เรื่องให้ “รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง” ทำเพื่อยุติการค้าสงครามชายแดนใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “อุ๊งอิ๊ง” กับภารกิจลบข้อหาพ่อจุดไฟใต้ระลอกใหม่**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- 3 เรื่อง 2 แนวทางที่รัฐบาลต้องทำเพื่อดับไฟใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- คาร์บอมบ์แฟลตตำรวจฉุดความเชื่อมั่น “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” สู่ก้นเหวทัศนะ : **ไชยยงค์ มณ
- รัฐบาลและกองทัพควรนำกระเช้าไปกราบขอบคุณผู้นำบีอาร์เอ็น?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จับตา “กองทัพ” ขอเพิ่มงบไล่ให้ทันพัฒนาการแบ่งแยกดินแดน**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “ครม.ใหม่” ไม่ยึดโยง “มาตรการดับไฟใต้”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จากลูกแม่ค้าน้ำผึ้งแว่นสู่คหบดีพันล้าน ‘ผู้ใจบุญแห่งภาคใต้’ มุ่งบริจาคเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ด้วยการยึดมั่น “ยิ่งให้ยิ่งได้”โดย.. **ไชยยงค์ มณีร
- ทำไมไฟใต้ยิ่งโชนเปลวตลอดช่วง 7 เดือนของ “รัฐบาลตระบัดสัตย์”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- สิ่งที่แอบแฝงกับการฝึก “คอบร้าโกลด์” ไทย-สหรัฐฯ คือการตั้ง ‘ฐานทัพ’ ในไทยใช่หรือไม่?!**ทัศนะ โดย.. เมือง
- หยุด “รอมฎอนเลือด” ทำลายการบ่มเพาะ “นักรบหน้าขาว”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จาก “รอมฎอนเลือด” ถึง “สงกรานต์-เข้าพรรษาเดือด”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- หยุดพิธีศพบิดเบือนไม่ได้ อย่าหวังไฟใต้จะมอดดับ**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ชำแหละ “แผน JCPP” หยุดฝันบีอาร์เอ็นลงนามด้วย**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ และเขียนบทใหม่ที่สวยงามสำหรับจีน-ไทย**โดย.. อู๋ ตงเหมย ก
- “ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง” ท่ามกลางความระอุอ้าวบนแผ่นดินไฟใต้ทัศนะ: **ไชยยงค์ มณี
- มองทะลุฉากหลัง “กระบวนการเจรจา” กับบีอาร์เอ็น**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ปัญหาของ “โคบาลชายแดนใต้” อยู่ที่เกษตรกร ‘ระบบราชการ’ หรือบริษัทผู้เป็นเจ้าของวัว**โดย.. ไชยยงค์ มณีพ
- ทำไม “รัฐบาลนิดหนึ่ง” ยังงมโข่งอยู่กับวิกฤตไฟใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “ปีมังกรทอง” หรือ “ปีมังกรไฟ” ที่ชายแดนใต้?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- เก็บซับ “บทเรียน” จากอุทกภัยใหญ่ไปใช้ “ดับไฟใต้”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ต้อนรับก้าวใหม่ของการร่วมสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”โดย.. **อู๋ ตงเหมย ก
- อย่าทน! กลไกรัฐพิการ เพื่อนบ้านซ่อนดาบในรอยยิ้ม**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ล้าง “กลุ่มนายพลผลประโยชน์” จากคณะพูดคุยสันติสุขพลเรือน?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- งานในอนาคตกับการพัฒนาบุคลากรดิจิทัล**ทัศนะ โดย.. ผศ.ดร.
- เล่าเรื่องประชาธิปไตยคนจน-ธนาคารแพะหวะแก้จน (2)ทัศนะ โดย.. **รองศาส
- ข้อท้าทายของปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย : ภารกิจและบทบาทของกระทรวงยุติธรรมโดย.. **พันตำรวจเอก
- เล่าเรื่องประชาธิปไตยคนจน-ธนาคารแพะหวะแก้จน (1)**ทัศนะ โดย.. รองศาส
- พัฒนาการธุรกรรมกับช่องทางการเงินดิจิทัลจากประเทศอินโดนีเซียสู่ประเทศไทย**ทัศนะ โดย.. ผศ.ดร.
- “รัฐบาลนิดหนึ่ง” เป็นร่างทรง “ร้าบานบิ๊กตู่” นำไฟใต้สู่ยุคมืด**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- อย่าฝันไฟใต้จะดับเพราะรัฐบาลพลเรือนใต้ปีก “ระบอบทักษิณ” ใต้บงการ “กองทัพ”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ