เล่าเรื่องประชาธิปไตยคนจน-ธนาคารแพะหวะแก้จน (2)
ทัศนะ โดย.. รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
แม้ผ่านมาร่วมสามทศวรรษ บทนำในวรรณกรรมชิ้นเอกอุแห่งศตวรรษที่ 20 ของ John Steinbeck ผลพวงแห่งความคับแค้น หรือ “The Grapes of wrath” ยังก้องกังวาน
“ฉันเรียนรู้สิ่งดีงามได้อย่างหนึ่ง เรียนรู้มาตลอดเวลาว่า ถ้าได้รับความเดือนร้อน ได้รับบาดเจ็บ หรือมีความจำเป็น จงไปหาคนจน คนพวกนี้เท่านั้นที่จะช่วย-มีแต่พวกนี้เท่านั้นที่จะช่วยเหลือ”
มีแต่คนคนจนเท่านั้น ที่จะเข้าใจคนจนและความจน
“ต้องกำจัดความจน ไม่ใช่คนจน” สำนวนคุ้นหูจาก มรว.อคิน รพีพัฒน์ ครูคนหนึ่งของข้าพจ้า มีแต่คนจนเท่านั้น ที่จะเข้าใจคนจน -ด้วยนวัตกรรรม
นวัตกรรมอาจไม่ใช่แค่ประดิษฐ์ สร้างใหม่เท่านั้น ยังหมายรวมถึงการคิดใหม่ ทำใหม่ ขยายผล ต่อยอด เรียนรู้ ลองผิดลองถูก ค้นคว้า เกิดกลายเป็นความรู้ วิชา เป็นปัญญา ที่รังสรรค์ เป็นนวัตกรรมสังคมที่พร้อมถ่ายทอด ทำให้เกิดการยอมรับ
นวัตกรรมในแนวราบ-จากเพื่อนสู่เพื่อน พื้นที่สู่พื้นที่ ตัดข้ามข้ามพื้นที่ ปริมณฑล - ด้วยมิตรภาพ ถักทอ ต่อสานสายใย ยาไส้ ยาใจ ในย่านโยด ด้วยมือบนที่ใจดี เข้าใจ-ความจน...วช. บพท.
จากจุดเล็กๆ ในท้องถิ่น ธนาคารแพะเนื้อแบบเลี้ยงหวะ ได้วิวัฒน์ พัฒนาเป็นโมเดลต้นแบบสู่กลุ่มคนเปราะบางและกลุ่มคนจนที่อื่นๆ ในชื่อต่างๆ เช่น กลุ่มเลี้ยงแพะปาเวาะฮฺ (อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส) กลุ่มเลี้ยงแพะฮาดีหย๊ะ (อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง) กลุ่มเลี้ยงแพะปันปัน (อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง) ซึ่งคำว่า “ปาเวาะฮฺ” “ฮาดีหย๊ะ” และ “ปันปัน” ล้วนแล้วแต่มีความหมายเดียวกันกับคำว่า “หวะ” หรือ “การแบ่งส่วน” เกิดการขยายผลต่อไปอีกกับการเลี้ยงแกะ กลายเป็นเครือข่ายการเลี้ยงแพะ-แกะ แบบพหุวัฒนธรรม โดยได้แรงหนุนเสริมงบประมาณจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) มีสมาชิก จำนวน 280 ครัวเรือน (พัทลุง 250 ครัวเรือน นราธิวาส 30 ครัวเรือน)
จากข้อมูลของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุไรวรรณ ทองแกมแก้ว หัวหน้าโครงการวิจัยฯ พบว่าการเลี้ยงแพะแบบหวะสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกโดยเฉลี่ย 14.72% ต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากการตัดยางหวะ 16.30% ต่อปี จากฐานคิด น้ำยางพารา 1 ไร่ เฉลี่ย 6.5 กก. ราคาเฉลี่ย 30 บาท/กก. รวม 195 บาท/วัน/ไร่ ถ้าแบ่งครึ่ง 50:50 จะได้รายได้จากการรับจ้างกรีดยางเฉลี่ย 97.5 บาท/วัน/ไร่ โดยเฉลี่ย 1 ครัวเรือน (2-3 คน) กรีดยาง 10 ไร่ จะได้รายได้ต่อวันเฉลี่ย 975 บาท (ภาคใต้กรีดยางได้เฉลี่ย 120 วัน) รายได้ต่อปี 117,000 บาท รายได้เฉลี่ย ในการรับจ้างกรีดยาง 39,000 บาท/คน/ปี
ส่วนรายได้จากการเลี้ยงแพะหวะ ฐานคิดมาจากสมาชิกลงหุ้น 3,600 บาท ซื้อแพะอายุ 11 เดือน (1 ตัว น้ำหนักตัว 30 กก.ๆ ละ 120 บาท ราคา 3,600 บาท) เลี้ยงขุน 1 เดือน น้ำหนัก 35 กก. ขาย กก.ๆละ 120 บาท ได้รายได้ 4,200 บาท ต้นทุนเฉลี่ย 70 บาท/ตัว/เดือน จะได้กำไร 530 บาท (4,200-3,600-70) (เงินทุน 3,600 บาท ยังคงอยู่) รายได้จากการเลี้ยงแพะแบบหวะ ฐานคิดมาจาก สมาชิกลงหุ้น 3,600 บาท ซื้อแพะอายุ 11 เดือน (1 ตัว น้ำหนักตัว 30 กก.ๆ ละ 120 บาท ราคา 3,600 บาท) เลี้ยงขุด 1 เดือน น้ำหนัก 35 กก. ขาย กก.ๆละ 120 บาท ได้รายได้ 4,200 บาท ต้นทุนเฉลี่ย 70 บาท/ตัว/เดือน จะได้กำไร 530 บาท (4,200-3,600-70) (เงินทุน 3,600 บาท ยังคงอยู่)
ความต่อเนื่องเชิงบวกจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น เช่น สมาชิกได้เงินปันผลทำให้มีเงินหมุนเวียนในครัวเรือน เกิดสภาพคล่องในการจ่ายหนี้กองทุนหมู่บ้าน และสามารถปลดหนี้นอกระบบได้ทั้งหมด ดังกรณีของ “อัตจิมา เกษตรกาลาม์” ที่ได้นำความรู้จากการดำเนินโครงการธนาคารแพะเนื้อแบบเลี้ยงหวะ และหันมาเลี้ยงแพะหวะการลงหุ้นของเครือญาติ ทำให้ปลดหนี้นอกระบบได้ทั้งหมดภายในระยะเวลา 1 ปี นอกจากนั้นยังช่วยเหลือให้เพื่อนบ้านยืมเงินยามที่ขัดสน
มูลค่าจากความแปลกใหม่ ? ให้คุณค่า ประชาธิปไตย ?
เกิดการเปลี่ยนแปลงทุนดำรงชีพ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนวิธีคิดและทัศนคติในการดำเนินอาชีพแบบกลุ่มร่วมกัน สมาชิกกลุ่มมีทักษะส่วนที่จับต้องไม่ได้ของปัจเจกบุคคล เช่น ทักษะการเป็นผู้นำ ทักษะการเป็นสมาชิก ทักษะการยอมรับความคิดเห็นส่วนใหญ่ ทักษะการแสดงออกทางทัศนคติและความคิด ทักษะอาชีพ เช่น ทักษะการเลี้ยงแพะ ทักษะการดูแลสุขภาพแพะ ทักษะการจัดการอาหารแพะ ทุนทางสังคมเกิดการจัดตั้งกลุ่มและเครือข่ายใหม่จากการเลี้ยงแพะหวะ โดยการมีส่วนร่วมในการบริหารงานแบบมีโครงสร้าง การวางบทบาทหน้าที่ การมีกฎกติกาและระเบียบของกลุ่ม การสร้างกิจกรรมและผลประโยชน์ของกลุ่ม และสร้างเครื่องมือในการประกอบอาชีพของกลุ่ม ประกอบด้วย โรงเรือนเลี้ยงแพะของกลุ่ม บัญชีแพะ บัญชีสมาชิก บัญชีหุ้น และการจดบันทึกฟาร์ม ทุกกระบวนการให้กลุ่มมีสวนร่วมและมีการทำประชาพิจารณ์ก่อนการนำมาใช้ในการดำเนินการของกลุ่ม แต่ละกลุ่มจึงมีวิธีการที่แตกต่างกัน เช่น กฎกติกาในการรับผลประโยชน์ร่วมกัน กลุ่มตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา หรือกลุ่มแพะปันปัน น้ำตกมโนราห์ มีการแบ่งสัดส่วนรายได้คือ คณะกรรมการ 40% : ผู้เลี้ยงแพะของกลุ่ม 40% : สมาชิก 20% กลุ่มตำบลเกาะนางคำ อำเภอปากพะยูน หรือกลุ่มแพะฮาดีหย๊ะ เกาะนางคำ การแบ่งสัดส่วนรายได้คือ คณะกรรมการ 30% : ผู้เลี้ยงแพะของกลุ่ม 40% : สมาชิก 20% : สวัสดิการกลุ่ม 10% เป็นต้น
รูปธรรมมูลค่าที่สร้างความ “งอกงาม”หยั่งรากมาจากเนื้อนาบุญ “คุณค่า” ที่แปลกใหม่ ? ของคนจน คนเปราะบาง ที่ลุก-รุกสร้างประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ในทิศทางแห่ง “ความหวัง” ที่พูดกันอย่างกว้างขวางในแวดวงชุมชน-คนทุกข์...“กินอิ่ม นอนอุ่น ทุนมี หนี้ลด”
Relate topics
- สำนวน “ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง” กับวลีเด็ด “โจรกระจอก”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ฤๅ “คดีตากใบ” ไม่ต่างจากเอาเบนซินไปราดดับไฟใต้?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- กำลังการผลิตคุณภาพใหม่ช่วยพัฒนาประเทศจีน สร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่โลก**โดย.. อู๋ ตงเหมย
- ห้วงเวลา “เปลี่ยนแปลงใหญ่” บนแผ่นดินไฟใต้?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จับตา “ตุลาเดือด” โหมไฟใต้โชนเปลวทัศนะ: **ไชยยงค์ มณี
- แนะ 2 เรื่องให้ “รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง” ทำเพื่อยุติการค้าสงครามชายแดนใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “อุ๊งอิ๊ง” กับภารกิจลบข้อหาพ่อจุดไฟใต้ระลอกใหม่**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- 3 เรื่อง 2 แนวทางที่รัฐบาลต้องทำเพื่อดับไฟใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- คาร์บอมบ์แฟลตตำรวจฉุดความเชื่อมั่น “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” สู่ก้นเหวทัศนะ : **ไชยยงค์ มณ
- รัฐบาลและกองทัพควรนำกระเช้าไปกราบขอบคุณผู้นำบีอาร์เอ็น?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จับตา “กองทัพ” ขอเพิ่มงบไล่ให้ทันพัฒนาการแบ่งแยกดินแดน**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “ครม.ใหม่” ไม่ยึดโยง “มาตรการดับไฟใต้”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จากลูกแม่ค้าน้ำผึ้งแว่นสู่คหบดีพันล้าน ‘ผู้ใจบุญแห่งภาคใต้’ มุ่งบริจาคเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ด้วยการยึดมั่น “ยิ่งให้ยิ่งได้”โดย.. **ไชยยงค์ มณีร
- ทำไมไฟใต้ยิ่งโชนเปลวตลอดช่วง 7 เดือนของ “รัฐบาลตระบัดสัตย์”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- สิ่งที่แอบแฝงกับการฝึก “คอบร้าโกลด์” ไทย-สหรัฐฯ คือการตั้ง ‘ฐานทัพ’ ในไทยใช่หรือไม่?!**ทัศนะ โดย.. เมือง
- หยุด “รอมฎอนเลือด” ทำลายการบ่มเพาะ “นักรบหน้าขาว”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- จาก “รอมฎอนเลือด” ถึง “สงกรานต์-เข้าพรรษาเดือด”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- หยุดพิธีศพบิดเบือนไม่ได้ อย่าหวังไฟใต้จะมอดดับ**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ชำแหละ “แผน JCPP” หยุดฝันบีอาร์เอ็นลงนามด้วย**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ และเขียนบทใหม่ที่สวยงามสำหรับจีน-ไทย**โดย.. อู๋ ตงเหมย ก
- “ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง” ท่ามกลางความระอุอ้าวบนแผ่นดินไฟใต้ทัศนะ: **ไชยยงค์ มณี
- มองทะลุฉากหลัง “กระบวนการเจรจา” กับบีอาร์เอ็น**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ปัญหาของ “โคบาลชายแดนใต้” อยู่ที่เกษตรกร ‘ระบบราชการ’ หรือบริษัทผู้เป็นเจ้าของวัว**โดย.. ไชยยงค์ มณีพ
- ทำไม “รัฐบาลนิดหนึ่ง” ยังงมโข่งอยู่กับวิกฤตไฟใต้**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- “ปีมังกรทอง” หรือ “ปีมังกรไฟ” ที่ชายแดนใต้?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- เก็บซับ “บทเรียน” จากอุทกภัยใหญ่ไปใช้ “ดับไฟใต้”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ต้อนรับก้าวใหม่ของการร่วมสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”โดย.. **อู๋ ตงเหมย ก
- อย่าทน! กลไกรัฐพิการ เพื่อนบ้านซ่อนดาบในรอยยิ้ม**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- ล้าง “กลุ่มนายพลผลประโยชน์” จากคณะพูดคุยสันติสุขพลเรือน?!**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- เล่าเรื่องประชาธิปไตยคนจน-ธนาคารแพะหวะแก้จน (จบ)**ทัศนะ โดย.. รองศาส
- งานในอนาคตกับการพัฒนาบุคลากรดิจิทัล**ทัศนะ โดย.. ผศ.ดร.
- ข้อท้าทายของปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย : ภารกิจและบทบาทของกระทรวงยุติธรรมโดย.. **พันตำรวจเอก
- เล่าเรื่องประชาธิปไตยคนจน-ธนาคารแพะหวะแก้จน (1)**ทัศนะ โดย.. รองศาส
- พัฒนาการธุรกรรมกับช่องทางการเงินดิจิทัลจากประเทศอินโดนีเซียสู่ประเทศไทย**ทัศนะ โดย.. ผศ.ดร.
- “รัฐบาลนิดหนึ่ง” เป็นร่างทรง “ร้าบานบิ๊กตู่” นำไฟใต้สู่ยุคมืด**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ
- อย่าฝันไฟใต้จะดับเพราะรัฐบาลพลเรือนใต้ปีก “ระบอบทักษิณ” ใต้บงการ “กองทัพ”**ทัศนะ : ไชยยงค์ มณ